ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเร่งลงพื้นที่เก็บหลักฐานตามล่าตัว 2 คนร้ายที่ก่อเหตุบุกรัวยิงหนุ่มเจ้าของร้านชำเสียชีวิตถึงในร้าน แม่เล่านาทีเกิดเหตุ
หลังจากเกิดเหตุ คนร้ายเป็นชาย 2 ราย ขี่รถจักรยานยนต์ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ก่อเหตุรัวยิง นายอรรถพล อายุ 36 ปี หนุ่มเจ้าของร้านชำด้านหลังเขื่อนแม่กลอง ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี จนเสียชีวิต ก่อนจะขี่รถหลบหนีไป
ล่าสุด วันที่ 9 มี.ค. 66 ที่ร้านขายของชำจุดเกิดเหตุ แม่ของผู้เสียชีวิต เผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนนั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าร้าน ส่วนลูกชายยืนเล่นโทรศัพท์รอลูกค้าอยู่บริเวณถังน้ำแข็งภายในร้าน จากนั้นคนร้ายเป็นชาย 2 คน สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดหน้าร้าน ก่อนที่คนซ้อนท้ายจะเดินลงจากรถตรงเข้ามาภายในร้านและควักปืนที่พกมารัวยิงใส่ลูกชายของตน ด้วยความตกใจ ตนวิ่งหนีเข้าไปในร้าน ส่วนลูกของตนวิ่งหนีไปทางด้านหลังร้าน โดยมีคนร้ายเดินตามไปกระหน่ำยิงอีกหลายนัด
แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ตนตะโกนเรียกหาลูกชาย กระทั่งพบว่าลูกนอนจมกองเลือดอยู่ด้านข้างร้าน เพื่อน ๆ ของลูกชาย รีบช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ลูกของตนซึ่งถูกยิงหลายนัดอาการสาหัส ก่อนจะร้องออกมาว่าไม่ไหวแล้ว และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา
เมื่อประมาณ 6 เดือนก่อน ลูกของตนเคยถูกคนร้ายก่อเหตุบุกมายิงถึงที่ร้านมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยครั้งนั้น คนร้ายเป็นผู้ชายมาคนเดียว ทำทีมาขอซื้อบุหรี่ ก่อนจะใช้ปืนยิงใส่ลูกชายของตน 3 นัด กระสุนเข้าที่หัวไหล่ขวา สะโพกและใต้สะดือ หลังก่อเหตุเสร็จคนร้ายยังยิงปืนขึ้นฟ้าอีกหนึ่งนัด ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ออกไปอย่างใจเย็น โชคดีที่ในครั้งนั้น หมอสามารถช่วยชีวิตของลูกชายตนเอาไว้ได้
หลังจากถูกบุกยิงมาครั้งหนึ่ง ลูกชายของตนก็ระวังตัวมากขึ้น โดยจะคอยไปยืนดูลูกค้าอยู่ด้านข้างร้าน เพื่อที่หากว่าเห็นท่าไม่ดีจะได้หนีทัน แต่สุดท้ายก็ยังมาถูกคนร้ายตามมาก่อเหตุซ้ำอย่างอุกอาจจนถูกยิงเสียชีวิตในที่สุด ตนเชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ น่าจะเป็นคนเดียวกับที่มาก่อเหตุในครั้งก่อน เพราะลักษณะการก่อเหตุคล้ายกันและยังก่อเหตุอย่างใจเย็นเหมือนไม่กลัวอะไรด้วย
แม่ของผู้เสียชีวิตได้ฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้ลูกของตน ที่เป็นคนตั้งใจทำมาหากินสุจริต ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร กลับต้องมาถูกคนร้ายก่อเหตุซ้ำอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายจนลูกชายของตนต้องตายไป
ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงสายวันนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติมในจุดเกิดเหตุ โดยพบปลอกกระสุนปืนขนาด .22 ที่ยังไม่ได้ถูกยิง ตกอยู่ใกล้จุดที่ผู้เสียชีวิตถูกยิง จำนวน 7 นัด จึงเชื่อได้ว่า คนร้ายน่าจะเตรียมกระสุนปืนมาเพิ่ม เพื่อหวังรัวยิงให้แน่ใจว่า นายอรรถพล จะไม่รอดชีวิตไปได้เหมือนครั้งก่อนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่สถานีตำรวจภูธรท่าม่วง เพื่อร่วมประชุมกับชุดสืบสวนคลี่คลายคดี เร่งเก็บรวบรวมพยานหลักฐานและภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งในจุดเกิดเหตุและใกล้เคียง เพื่อหาเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีและจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้โดยเร็วที่สุด