ภูมิใจสามีเด็ก แพรวพราว แสงทอง ชม ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ หาเงินเก่งแซงหน้า เมินดราม่าอวดรวย สร้างบ้านหรู 10 ล้านให้เมียและลูกได้
หมอลำซิ่งสาว แพรวพราว แสงทอง หญิงแกร่งสู้ชีวิตบนเส้นทางหมอลำมากว่า 20 ปี ประสบความสำเร็จนำพาวง “แสงทองฟินแลนด์” มีงานจ้างทุกวัน เจ้าภาพจองคิวยาวข้ามปี อีกทั้งยังได้คู่ชีวิตอย่าง ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ หรือ หนุ่มบิ๊ก สามีเด็กอายุห่าง 12 ปี ช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านโซเชียล ทำให้กระแสของวงบนโลกออนไลน์ดังเปรี้ยงปร้าง แถมยังขยันช่วยกันทำมาหากิน สร้างธุรกิจพิสูจน์ตัวเองได้
โดยมีโอกาสเจอ แพรวพราว แสงทอง ที่มาร่วมงานแถลงข่าวงานมหกรรมคอนเสิร์ต “ยักษ์ เฟสติวัล” ณ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต ได้เปิดใจกับ ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ถึงเบื้องหลังความสำเร็จ กว่าจะมาถึงวันนี้ ฝ่าคำดูถูก กระแสดราม่าสารพัด ลูกน้องในวงแตกคอโดนมองทำคุณคนไม่ขึ้น แต่เธอก็ไม่หวั่น ยืนหยัดเชื่อมั่นในความตั้งใจและความดี พร้อมกันนี้ยังภูมิใจในตัวสามีเด็ก แม้อายุห่างกันรอบหนึ่ง แต่วุฒิภาวะโตเกินวัย หาเงินเก่งแซงหน้าเมียแล้ว สามารถสร้างบ้านหลังใหญ่ 10 ล้าน ให้เมียและลูกได้
แฟนๆ ชื่นชม วงหมอลำซิ่ง แสงทองฟินแลนด์ ประสบความสำเร็จ มีแนวคิดในการบริหารวง ดูแลลูกน้องอย่างไร? “เรื่องของการบริหารวง เรามีประสบการณ์ตั้งแต่คุณแม่ยังอยู่ เมื่อก่อนแม่เทพจะดูแล แพรวก็เรียนรู้จากแม่ ตอนนั้นเรายังเป็นเด็กซึมซับมาเรื่อยๆ จนวันหนึ่งแม่ไม่อยู่ เราคิดแล้วว่าฉันต้องดูแลทุกคน ก็ได้แนวคิดคำสั่งสอนจากคุณแม่ และอีกอย่างมีเพื่อนซี้ นิลุย ชาแนล ที่ช่วยเราบริหารวง เขาเป็นแขนเป็นขาให้เราได้เลย การบริหารวงทำงานกับคนคือเหนื่อยมาก เรื่องงานเหนื่อย เรื่องคนเหนื่อยกว่า แต่เรามีวิธีบริหารจัดการด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา ตั้งท้องหรือไม่ตั้งท้องเราก็ยังทำงานเหมือนเดิม เราคิดว่าร่างกายไหว ไม่ได้ฝืนตัวเอง อย่างลูกน้องในวงเขามาอยู่กับเราแล้ว เราก็รักเขาเหมือนคนในครอบครัว ก็อยากให้ทุกคนมีกินมีใช้ กินดีอยู่ดี เราไปทำบ้านพักที่ขอนแก่น ทำหอพักที่บ้าน เราอยากให้เขาอยู่สบาย ไปงานเดินทางมันลำบาก บางทีไปเจอฝน เจออุปสรรคมันเหนื่อย เราก็อยากมีที่รองรับให้ทีมงานได้อยู่สุขสบาย สำหรับแพรวเรื่องงานสู้อยู่แล้ว”
สู้ชีวิตทำเพื่อวงมา แต่ก็มีดราม่ากับลูกน้องตลอด มีหลายคนที่ออกไป เคยคิดไหมว่าเราทำคุณคนไม่ขึ้น? “ก็มีค่ะ แต่แพรวเชื่อว่าเราทำดีมันต้องได้ดี ถึงแม้ว่าบางคนบางช่วงเขาอาจจะไม่ได้เห็นความดีของเรา เขาอาจจะมองข้ามหรือทำคุณคนไม่ขึ้น แต่แพรวเชื่อเสมอว่าถ้าเราทำดี เราต้องได้ดี ชีวิตเราต้องดี แล้วคนไหนที่เห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำ ชีวิตเขาก็จะดี แพรวคิดแบบนั้น มันไม่มีอะไรแน่นอน ถามว่าคนเข้ามา มาแล้วก็ผ่านไป แต่แพรวยังคงคอนเซ็ปต์ว่า ใครที่อยู่กับแพรว แพรวให้ใจทุกคนเต็มร้อย จะได้กลับมา 20 30 50 แพรวไม่แคร์ คิดแค่ว่าเราทำเต็มที่แล้ว มีความสุขแล้วที่ได้ทำเต็มที่ ที่แสงทองฟินแลนด์มีงานจ้างตลอด เพราะหนึ่งมันขึ้นอยู่กับผลงาน สองเพราะเราซื่อสัตย์ เราทำดี ไม่เคยเบียดเบียนใคร มันก็ส่งผลให้เรามีงานอยู่เรื่อยๆ อาจจะมีเป็นช่วงงานน้อยงานมาก แต่มีมาตลอดไม่ขาดมือ”
ได้คู่ชีวิตมาช่วยส่งเสริมดูแลสรรค์สร้างงานร่วมกัน อย่าง ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ การมีเขาเข้ามาทำให้ชีวิตเราดีขึ้น? “ดีขึ้นมากค่ะ แต่บางคนอาจจะมองว่าไม่ชอบเขาเพราะเขาเป็นเด็ก ซึ่งเมื่อก่อนมีแค่เราแล้วเขาเข้ามา เขาเป็นเด็กที่มีระเบียบ ค่อนข้างเจ้ากี้เจ้าการหน่อย เขามาแล้วช่วยจัดแจงให้เรา ช่วยเหลือเรา แต่บางคนอาจจะไม่ชอบ อาจจะหลายคนก็ได้ที่ไม่ชอบเขา ที่คิดว่าเขาเป็นเด็กแล้วมาแบบนี้ แต่ที่จริงวุฒิภาวะเขามันเกินกว่าเด็ก เขาเข้ามามีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ถ้าสังเกตจากก่อนหน้านั้นและหลังจากที่เขาเข้ามา วงเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น เรื่องสื่อ การทำโซเชียลออนไลน์ก้าวหน้าล้ำหน้ามากขึ้นเพราะว่าเขาเป็นคนที่นำพาเรา เขาอาจจะไม่เก่งเรื่องการแสดง เรื่องร้องลำ เราก็สอนเขา ส่วนเราไม่เก่งเรื่องโซเชียล เขาก็สอนเรา มันกลายเป็นว่ามันส่งเสริมกันและกัน”
เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เป็นคนเก่ง เริ่มมีคนยอมรับในความสามารถของเขามากขึ้นแค่ไหนแล้ว?
“ก็มีคนเริ่มยอมรับมากขึ้น เขาก็พิสูจน์ได้ในตัวเขา แต่คนมีอคติก็น่าจะยังมีอคติเหมือนเดิม ปีหน้าเขาจะไม่ได้ไปคอนเสิร์ตด้วยแล้ว คือเขาอยากไปลุยธุรกิจมากกว่า เขาคิดว่าสายงานการแสดงมันไม่มีอะไรแน่นอน ถ้าโควิดมาก็จบ งานไม่ได้ไปต่อ หรือว่ามีสถานการณ์อะไรที่มันไม่สามารถเล่นคอนเสิร์ตได้ เขาก็คิดว่าเราจะมาจมอยู่ด้วยกันไม่ได้ เขาต้องไปดูแลบริหารธุรกิจของเขาให้เติบโตมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะซัพพอร์ตครอบครัว แล้วเขาก็มองแล้วว่าน่าจะไปทางธุรกิจได้ดีมากกว่า ส่วนแพรวก็ยังทำการแสดงเหมือนเดิม แต่อาจจะไม่ได้ทำตลอดไปจนแก่เฒ่า อีก 2-3 ปีอาจจะไปทำงานเบื้องหลัง แต่ไม่ทิ้งลูกน้องทีมงานแน่นอนถ้าเขายังอยู่กับเรา”
สู้ชีวิตอยู่ในวงการเส้นทางหมอลำซิ่ง เป็นแพรวพราว แสงทอง มากี่ปีแล้ว? “เริ่มเรียนลำมาตั้งแต่อายุ 14 แต่เป็นแดนเซอร์ตั้งแต่อายุ 11 ตอนนี้ 34 ย่าง 35 แล้ว ก็ 20 กว่าปีแล้วค่ะ ย้อนดูไทม์ไลน์ตัวเองสู้มากนะกว่าจะมาถึงทุกวันนี้ แต่พอมองย้อนกลับไปมันก็สมกับที่เราสู้มาจริงๆ เราใจสู้มาก เจอคนดูถูกมาเยอะแยะมากมาย แต่เราก็ผ่านมันมาได้จนถึงทุกวันนี้ ก็ดีใจค่ะ”
บ้านแสงทองฟินแลนด์มีดราม่าตลอด ยิ่งดราม่าก็ยิ่งดัง? “ใช่ มีตลอด ก็ไม่เป็นไร ก็ขอบคุณดราม่าที่ทำให้เราไม่หายไปจากโซเชียล(หัวเราะ) รับมือได้ค่ะ ไม่มีอะไรหนักไปกว่าแม่เสียชีวิตแล้วค่ะ ในชีวิตนี้เรื่องแม่ไปจากเราเป็นอะไรที่หนักสุดแล้ว ตอนนั้นท้องโตด้วย ทุกวันนี้ไม่กลัวอะไรแล้ว อะไรมาคือชนหมด”
ได้คู่ชีวิตดี สามีดูแลดีเปย์หนักด้วย ใครเปย์เก่งมากกว่ากัน? “น่าจะเป็นเขามากกว่า เมื่อก่อนต่างคนต่างเปย์ให้กัน แต่หลังๆ มาเขาเริ่มให้เรามากกว่า เพราะว่าเขาเริ่มเติบโต เขาเริ่มพิสูจน์ให้เราเห็นแล้ว เช่น เขาสร้างโกดัง เราก็ไม่ได้ไปช่วยเหลือเขาแม้แต่บาทเดียว และเขาสร้างบ้านอีกหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ กัน ที่หลังใหญ่ๆ มีคนถามว่าหมดไปเท่าไหร่แล้ว เราไม่รู้เรื่องเพราะบิ๊กเขาทำเองหมด เขาอยากพิสูจน์ตัวเขาเอง ฉันนี่นี่แหละคือหัวหน้าครอบครัวที่สามารถดูแลเธอได้ แล้วทำให้คนอื่นยอมรับในตัวของฉันให้ได้”
ลบคำสบประมาทคนว่ามาเกาะแพรวพราว? “ใช่ ก็ยอมรับในตัวเขา ที่จริงเขาเป็นคนเรียนไม่เก่งนะ เรื่องคิดเลขเขายังผิดๆ ถูกๆ อยู่ แต่เขาบริหารธุรกิจของเขาได้ เราก็ยังยอมรับว่าเขามีกึ๋นของเขา เขาทำธุรกิจขายออนไลน์ก็ถือว่าเขาประสบความสำเร็จมากเพราะว่าเขามีวาทะศิลป์ในการพูด เขาก็สอนให้เราด้วย”
ภูมิใจในตัวสามีเด็กคนนี้แค่ไหน? “ภูมิใจมากอยู่แล้วค่ะ เพราะเขาเด็กกว่าเราตั้ง 12 ปี ห่างกันรอบหนึ่ง ภูมิใจที่เขาสามารถหาเงินแข่งกับเราจนนำเราไปแล้ว เขาสามารถดูแลเราได้ ดูแลลูกได้ หลายๆ อย่างมันพิสูจน์ว่าถ้าสมมติเราไม่อยู่แล้วเธอดูแลลูกได้มั้ยเธอเป็นผู้ชาย เขาก็ดูแลได้ไม่มีปัญหา ถ้าสมมติวันนี้ฉันไม่มีรายได้เหมือนช่วงหนึ่งที่เพจปิดกั้นรายได้แพรว รายได้ฉันอยู่ในนี้เยอะเลยนะ เขาก็ใช้คำพูดที่ว่า ไม่เป็นไร ถึงแม้เธอไม่มีรายได้ ฉันก็ยังมีซัพพอร์ตเธอ เขาก็ทำพิสูจน์ให้เราเห็นหลายอย่าง แล้วเขาก็ไม่เคยมาคิดเล็กคิดน้อยอะไรกับเรา ที่สำคัญตั้งแต่วันแรกที่เขาไปงานคอนเสิร์ตจนมาถึงวันนี้ เขาไม่เคยถามเอาค่าตัวแม้แต่บาทเดียว เราไม่ได้ให้เขาเลย(หัวเราะ) ก็มีรถบีเอ็มนั่นแหละที่เราเปย์เขาหนักๆ ก็ให้แค่นั้น แต่หลังจากนั้นให้เขาเปย์เรา(หัวเราะ) ที่เขาสร้างบ้านหลังใหญ่ขยายเพื่อลูกด้วย”
คนแซวกินเด็กแล้วเป็นอมตะ แพรวพราวมีสามีเด็ก ยิ่งสวยยิ่งเด็กลง? “(หัวเราะ) ไม่หรอก มันเป็นเพราะว่าเขาดูแลเราด้วย บิ๊กเขาจะเห็นเวลาเราใส่ชุด ทำไมแก่จังเลย แล้วเขาจะมองเรา เขาเอาใจใส่ดูเราทุกอย่าง ฉันว่าตัวนี้มันไม่โอเคนะ เขาพูดจนเราไปเปลี่ยนใหม่ เขาไม่ได้บอกให้เราไปเปลี่ยน แต่เขาจะพูดและมองจนเราไม่มั่นใจแล้วเราก็ไปเปลี่ยนเอง ถ้าวันไหนที่เราแต่งตัวสวย เขาจะไม่พูด เขาก็จะบอกเธอถ่ายรูปกับฉันหน่อย ภูมิใจที่เมียสวย เขาชอบให้เราเซ็กซี่ แต่ถ้ามันเซ็กซี่จนเกินงามเขาก็จะบอก ชุดนี้ผ่านมั้ย ได้ๆ เขาก็พยายามพัฒนาตัวเอง และพัฒนาเมียของเขาด้วย”
บ้านใกล้เสร็จยัง? “ตัวบ้านใกล้เสร็จแล้ว เหลือบิ้วอิน ตอนแรกตัวบ้าน 4 ล้านกว่า แต่ตอนนี้น่าจะบานไปประมาณ 5 ล้านกว่าแล้ว มีสระว่ายน้ำอีก ไม่รู้ว่าเขาจ่ายไปเท่าไหร่ โดนโกงด้วย ผู้รับเหมาโกง แล้วบิ้วอินอีก คิดว่าน่าจะแตะหลัก 10 ล้าน เพราะต้องทำน้ำพุหน้าบ้านด้วย ต้องจัดใหญ่หน้าบ้าน ทำสวนหน้าบ้าน”
มีดราม่าบางคนมองว่าอวดรวย? “สำหรับเราไม่นะ เพราะถ้าไปดูไทม์ไลน์ชีวิต เราก็สู้กันมา เหนื่อยกันมา ไม่ใช่ว่ามาแล้วได้แบบนี้เลย จริงๆ เราเป็นคนไม่ติดหรูอยู่แล้ว แต่บางทีบิ๊กเขาโพสต์ เขาเป็นเด็กที่เกิดมาจากครอบครัวที่ขาด บางทีเข้าใจเขานะ ก็บอกเขาเธอไม่ต้องโพสต์หรอกเดี๋ยวเขามองว่าเราอวด เขาก็บอกว่าบางทีที่ฉันอยากโพสต์ให้รางวัลชีวิตตัวเองบ้าง แล้วเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น ใครจะมองว่าฉันอวดก็แล้วแต่ แต่ก็ไม่ได้แบบว่าเวอร์วังอะไรขนาดนั้น”