ยามฝั่งปินส์โวยถูกเรือรบจีนคุกคาม ฉายแสงเลเซอร์ทางทหารใส่จนหน้ามืด
ยามฝั่งปินส์โวยถูกเรือรบจีนคุกคาม – วันที่ 13 ก.พ. เอพีรายงานว่า ทางการฟิลิปปินส์เปิดเผยว่าเรือยามฝั่งถูกเรือรบของจีนฉายแสงเลเซอร์ทางทหารใส่เพื่อคุกคามในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของฟิลิปปินส์อย่างชัดเจน
แถลงการณ์ของหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ ระบุว่า เรือรบลำดังกล่าวของจีนยังแล่นเข้ามาใกล้ในระดับอันตราย โดยห่างจากเรือลาดตระเวนของยามฝั่งฟิลิปปินส์ไปเพียง 137 เมตร เพื่อขัดขวางไม่ให้เรือยามฝั่งปฏิบัติหน้าที่ต่อ
เหตุข้างต้นเกิดขึ้นเมื่อ 6 ก.พ. บริเวณแนวสันดอนโทมัสที่ 2 เป็นแนวปะการังใต้น้ำที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพฟิลิปปินส์ โดยพฤติกรรมรุกล้ำของจีนนั้นทางการฟิลิปปินส์เคยยื่นจดหมายประท้วงไปแล้วเกือบ 200 ครั้ง เฉพาะเมื่อปี 2565
รายงานระบุว่า ทางการจีนอ้างว่าทะเลจีนใต้ทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของจีนส่งผลให้เกิดข้อพิพาทกับชาติใกล้เคียงหลายชาติ แม้ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มากอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์จะมีจุดยืนส่งเสริมความสัมพันธ์กับจีน แต่ก็ยังรักษาสมดุลสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาไว้
พลเรือจัตวาอาร์มันด์ บาลิโล โฆษกยามฝั่งฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เรือของฝ่ายจีนเคยพยายามขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเรือยามฝั่งฟิลิปปินส์มาตลอดหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เรือจีนใช้แสงเลเซอร์ทางทหารฉายเข้าใส่ทำให้เจ้าหน้าที่ยามฝั่งได้รับผลกระทบทางร่างกาย
“เรือจีนฉายแสงเลเซอร์สีเขียวเข้าใส่เรือ บีอาร์พี มาลาปาสกัว เป็นจำนวน 2 ครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ยามฝั่งที่อยู่ในสะพานเดินเรือหน้ามืดชั่วขณะ” พลเรือจัตวาบาลิโล ระบุ
พันเอกเมเดล อากวิลา โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ กล่าวเรียกร้องให้ทางการจีนกำชับกองกำลังของตัวเองให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมยั่วยุที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของผู้คน และว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ถือว่าเป็นการกระทำที่คุกคามและไม่ปลอดภัย
ด้านนายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวตอบโต้ถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า เรือยามฝั่งฟิลิปปินส์รุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำของจีนโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้หน่วยยามฝั่งของจีนตอบโต้ด้วยความอดกลั้น เป็นมืออาชีพ สอดคล้องต้องตามกฎหมายของจีนและระเบียบสากล
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าฟิลิปปินส์จะหันมาให้ความเคารพต่ออธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดน รวมถึงสิทธิเหนือน่านน้ำ ตลอดจนผลประโยชน์เหนือทะเลจีนใต้ของจีน โดยหลีกเลี่ยงพฤติกรรมทุกรูปแบบที่อาจทำให้กรณีพิพาทขยายขอบเขตหรือมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” หวัง ระบุ
อย่างไรก็ตาม นายหวังยืนยันว่า ทางการจีนและฟิลิปปินส์ยังหารือสื่อสารกันอย่างต่อเนื่องจากตามช่องทางการทูตของสองประเทศที่มีอยู่ แต่นายหวังไม่ได้ระบุถึงเรื่องแสงเลเซอร์ที่ยามฝั่งจีนใช้แต่อย่างใด