จอย ชวนชื่น ไม่สนคนมองตกอับ ขายของงานวัด รายได้หลักหมื่น ปัด “พี่-น้อง” แตกคอ แต่ยอมรับห่างเหิน ตั้งแต่ พ่อดม ไม่อยู่
ทำเอาหลายคนชื่นชมในความขยันทำมาหากิน ไม่หมิ่นเงินน้อย เมื่อนักแสดงตลกสาวชื่อดัง จอย ชวนชื่น โพสต์ภาพที่ตัวเองและลูกสาวออกร้านขายขนมควันทะลักในงานวัดแถวบ้าน ล่าสุดเจ้าตัวเปิดใจกับทาง ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ หลังมีบางคนมองว่าชีวิตตกอับ ไร้งาน จนต้องผันตัวเป็นแม่ค้างานวัด พร้อมเผยประเด็นที่หลายคนสงสัย “พี่น้องชวนชื่น” ถามไถ่ช่วยเหลือบ้างไหม แตกกันแล้วหรือเปล่า?!
ภาพที่ลงในเฟซบุ๊ก รับบทแม่ค้างานวัด หลายคนคิดว่าตกอับเหรอ? “เราเป็นแม่ค้ามานานแล้ว ช่วงโน้นที่มีข่าวตกอับจริงๆ ว่าไปขายของงานวัด ขายตามตลาดนัด อันนั้นคือมันไม่มีจริงๆ เลยทำอะไรก็ได้ที่มันจะได้เงิน เรารู้ว่าการขายของคนก็ไม่ค่อยมีกำลังซื้อหรอก แต่มันก็ต้องทำ มีของอยู่แล้วก็ทำไป แล้วช่วงนี้โควิดเริ่มคลายแล้ว งานวัดก็มาพอดี ช่วงตรุษจีนด้วย ขายดีมาก เคยขายได้วันละสองหมื่น หมื่นกว่า แต่พอมาช่วงนี้คนก็เดินเยอะแต่ไม่ค่อยซื้อ”
“ถามว่าสนุกไหม มันสนุกเพราะเราชอบทำอะไรก็ได้ที่ได้เงิน ไม่ว่าใครจะว่าเราตกอับหรือเป็นอะไรก็แล้วแต่ เป็นแม่ค้าแล้วยังไง ไม่อย่างนั้นคนที่เป็นแม่ค้าก็ตกอับกันหมดสิ อีกอย่างเราไม่ได้ยึดอาชีพเป็นแม่ค้าจริงๆ แค่ทำพาร์ตไทม์ช่วงที่เราว่าง จากที่ไปขายมาเราชอบงานวัด ส่วนอีเวนต์กับตลาดนัดไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของเรา”
ขายขนมอะไร? “เราไปเจอขนมควันทะลักแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ เป็นขนมเกาหลีทานแล้วควันออกปาก กำลังฮิตมากด้วย เด็กๆ วัยรุ่นก็ชอบเพราะถ่ายรูปลงไอจีฟีลแบบอยู่เกาหลี เลยไปคุยกับเจ้าของและซื้อแฟรนไชส์มาทำเป็นของเรา”
แรกๆ ที่ไปขายคนมองยังไงบ้าง? “มีทั้งคนรัก คนเกลียด คนอิจฉา คนหมั่นไส้ เจอสารพัดเพราะบางทีคนมารุมที่ร้านเราอย่างเดียว เลยแบบไม่อยากให้เรามาตั้งร้านใกล้ๆ นอกจากนี้ก็มีลูกค้าที่พอเห็นว่าเป็นเราก็จะแบบอุ๊ย! นี่ดารามาขายของมาเป็นแม่ค้า แล้วเราจะทำอะไร แต่เราก็บอกว่าไม่เป็นไรแค่มาขายเล่นๆ ช่วงว่างๆ เพราะงานหลักของเราก็ยังเป็นการถ่ายละครอยู่”
“ทุกวันนี้ก็ยังมีงานในวงการอยู่ ถ่ายละคร งานรายการที่รับเชิญไป เพียงแต่เราไม่ได้มีงานประจำเหมือนแต่ก่อน รายได้ที่เข้ามาก็เลยไม่แน่นอน เรียกว่าเดือนต่อเดือน เดือนนี้ผ่านแล้ว เดือนต่อไปจะทำยังไง มันต้องมีสำรองเก็บเพื่อจะจ่ายในเดือนต่อไปด้วย แล้วก็มีอ่านบางคอมเมนต์เจอว่า สมัยก่อนก็เล่นเฮงเฮงเฮง มีซิตคอม ทำไมไม่มีเงินเก็บเลยเหรอ มันก็มีแต่เรามีลูก ค่าใช้จ่ายมันจุกจิกมาก แล้วเราก็ไม่ได้มีเงินเก็บขนาดนั้น แล้วยิ่งมาเจอโควิด 3 ปีก็แย่เหมือนกัน”
พาลูกสาวมาช่วยขายด้วย? “เขาไม่เขินเลย เขาเต็มใจช่วย เขาบอกเองว่าคุณแม่ถ้าให้หนูช่วยอะไรได้บอกเลย น่ารักมาก บัญชีรายรับรายจ่ายเขาก็เป็นคนจดให้ตอนที่ยังไม่ได้ไปช่วยขาย แต่พอตอนหลังไปช่วยขายมันก็ต้องให้เขารู้สึกว่าเขาได้เงิน เพราะเรารู้นิสัยลูกเราเป็นคนงก(หัวเราะ) แล้วก็ดีกว่าเราไปจ้างคนอื่นก็ให้ค่าแรงวันละ 300 บาท เขาก็แฮปปี้ อีกอย่างเป็นการสอนให้ลูกรู้ด้วยว่ากว่าพ่อแม่จะได้เงินมาแต่ละบาทไม่ใช่ง่ายๆ”
ถามตรงๆ ตอนนี้ชีวิตถือว่าลำบากไหม? “ไม่ลำบาก เราก็มีความสุข ไปขายของมีคนมาคุยมาถ่ายรูปก็มีความสุข กลับไปบ้านมันเหนื่อยแต่พอได้นั่งนับเงินก็ชื่นใจ”
ตัวเรามีความสุข แต่คนกลับมองว่าเป็นแม่ค้างานวัด เป็นดาราตกอับ รู้สึกยังไง? “ไม่ได้โกรธหรือไปใส่ใจอะไรมาก แรกๆ ก็มีคิดเหมือนกันว่ามันใช่อย่างที่เขาคิดหรือเปล่า แต่มันไม่ใช่นี่ เรามีความสุขอ่ะ ขายของก็ได้เงินด้วย ไม่ต้องไปแคร์อะไร แล้วเราก็ยิ้มให้กับทุกคนเพราะด้วยนิสัยตัวเองก็เป็นคนที่ไม่ได้เครียดอะไรมากอยู่แล้ว”
การที่เรามาขายของ พี่น้องเราเขาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงไหม? “พอตั้งแต่มีโควิดก็ห่างๆ กันไป ไม่ค่อยได้คุยกัน ส่วนมากจะคุยกับแม่ เขาก็ไม่เคยโทรมาถามเราว่าเป็นยังไง แต่เขาจะถามจากแม่ เรารู้นิสัยพี่เราว่าเป็นคนยังไง คือไม่ได้มาถามกับเราตรงๆ แต่ไปทำคนข้างๆ มากกว่า”
ไม่ได้น้อยใจใช่ไหม? “ไม่ได้น้อยใจอะไร ไม่ได้มีอะไร อีกอย่างก็ไม่ได้อะไรมากมายเพราะเราเข้าใจรู้นิสัยกันไง พี่จิ้มเองเขาก็มีครอบครัวที่ต้องดูแล ไม่ว่าจะใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นแจ๊สด้วย ทุกคนมีครอบครัวที่จะต้องดูแล เราก็มีครอบครัว เพราะฉะนั้นต่างคนต่างดูแลครอบครัวตัวเองให้ดีที่สุด ให้รอดพ้นจากสถานการณ์ที่มันวิกฤตตรงนี้ให้ได้แค่นั้นเอง แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ พี่น้องก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว”
“เราเชื่อว่าเขาก็อยากช่วย แต่ทุกคนก็มีภารกิจของตัวเอง เราก็เลยห่างเหินกันไป ยิ่งพอพ่อเสียไปแล้วมันเหมือนไม่มีหลักยึดจริงๆ ความสนิทกันก็ยังสนิท แต่ว่าเจอกันในไลน์ ไม่ได้เจอต่อหน้า ถ้าเทียบกับตอนที่พ่ออยู่ตอนนั้นได้เจอกันบ่อยกว่านี้ เมื่อก่อนเราก็คิดว่ามีแม่คอยประคองลูกๆ ทุกคน แต่จริงๆ แล้วคนที่ประคองที่เป็นเสาหลักจริงๆ คือพ่อ มารู้ในตอนที่ไม่มีเขานี่แหละ พอไม่มีพ่อมันเหมือนมีแยกไปบ้างอะไรไปบ้าง แต่ก็ยังโกยกันได้อยู่เพราะยังมีแม่อยู่”
ยืนยันพี่น้องไม่ได้แตก? “ไม่ได้แตก ไม่ได้ตี ไม่ได้มีอะไรกัน ตอนนี้ก็จะเป็นน้องชายที่รองจากเราเป็นเสาหลักดูแลแม่ คอยถามไถ่พี่น้องว่าใครเดือดร้อนก็ให้มาหยิบยืมได้ เราก็จะซึ้งน้ำใจน้องชายมาก เขาก็จะมาบอกว่าอย่าปล่อยให้อด ถ้าอดเมื่อไหร่ให้โทรมาบอกได้”
ฝากถึงแฟนๆ? “ขอบคุณทุกคนค่ะ อ่านคอมเมนต์แต่ละคอมเมนต์ก็มีกำลังใจเยอะมาก บอกให้เราสู้ๆ บอกว่าเราขยัน ไม่อายทำกิน ไม่หมิ่นเงินน้อย ไม่นอนคอยวาสนาเหมือนที่พ่อพูด เราก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ชอบทำงานเพราะฉะนั้นเราทำอะไรก็ได้ ไม่ได้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอะไร แต่บางทีที่เหนื่อยมากๆ ก็พูดลอยๆ ไป…พ่อจ๋าหนูเหนื่อยมากเลยเนี่ย อยากมีงานที่มันแบบว่าไม่ต้องออกไปขายของก็ได้(หัวเราะ) ก็มีบ้างที่บ่นคิดถึงพ่อค่ะ”