กระแต คืนจอหนังในรอบ 10 ปี ประกาศรับงานเต็มตัว เบรกแนวเซ็กซี่ เขินหุ่นตัวเอง – เผยทั้งน้ำตาสูญเสียคุณพ่อ
กระแต คืนจอหนังในรอบ / ห่างหายจากงานภาพยนตร์ไปนานกว่า 10 ปีเลยทีเดียว สำหรับนักแสดงสาวเซ็กซี่ กระแต ศุภักษร ไชยมงคล ล่าสุดเจ้าตัวกลับมาโลดแล่นบนจอเงินอีกครั้งกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของค่ายจีดีเอช “เธอกับฉันกับฉัน”
ทั้งนี้เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ที่ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 21 จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ถึงเหตุผลที่กลับมารับเล่นอีกครั้ง ก่อนประกาศรับงานแสดงเต็มตัว พร้อมเปิดใจทั้งน้ำตาหลังสูญเสียคุณพ่ออันเป็นที่รักด้วยโรคร้าย
คืนจอเงินในรอบกี่ปี? “ถ้าเป็นกับทางค่ายจีดีเอช(ตอนนั้นคือจีทีเอช)ก็น่าจะ 15 ปีค่ะ แต่ถ้าเป็นกับค่ายอื่นก็ 10 ปีค่ะ สาเหตุที่กลับมารับงานหนังอีกครั้งเพราะเป็นคนที่ชอบเห็นตัวเองอยู่ในจอภาพยนตร์ ภาพยนตร์มันมีเสน่ห์บางอย่าง เรียลและดูธรรมชาติกว่า อีกอย่างเรื่องนี้บทค่อนข้างใกล้ตัวเรามากๆ เราก็มีลูกแล้ว ในเรื่องมีลูกแฝดซึ่งมันก็ไม่ต่างอะไรกับการมีลูกสองคน เวลาอ่านบทแล้วมันรู้สึกอิน แต่ว่าตอนที่แคสต์ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะได้เล่นหรือเปล่า”
กลับมาครั้งนี้ฟีลเหมือนเข้าวงการใหม่ๆ เลยไหม? “ไม่ขนาดนั้นค่ะ คือมันก็จะมีความคิดอีกแบบหนึ่ง หลังจากที่อ่านบทแล้วก็รู้สึกว่าเอาตัวเองไปอยู่ตรงนั้นได้เร็ว”
ห่างจากงานภาพยนตร์ไปนาน พอกลับมาก็เจอนักแสดงหน้าใหม่อีก? “ต้องบอกเลยว่าจำนวนวันในการเวิร์กช็อปเยอะมากๆ น่าจะประมาณ 20 วันได้ ต้องปรับจูนกันในเรื่องของนักแสดงกับน้องที่มาเล่นเป็นลูกฝาแฝดของเรา ก่อนถ่ายจริงก็มีเวิร์กช็อปอีก แล้ววันหนึ่งถ่ายได้แค่ซีนเดียว มันค่อนข้างละเอียดอ่อน คือมันจะเป็นมู้ดของครอบครัว”
เป้าหมายในการกลับมาเล่นหนังครั้งนี้? “ส่วนตัวไม่ได้คิดถึงเรื่องของชื่อเสียงเลย เราแค่มีความสุขในการทำงาน ทุกครั้งที่ได้มาถ่ายก็จะคิดถึงสมัยก่อน แล้วฉากหนึ่งเล่นทั้งวัน ซึ่งมันจะยากกว่าเดิมตรงที่เราต้องเล่นกับน้องฝาแฝดซึ่งเป็นน้องคนเดียวเล่น ฉะนั้นเท่ากับว่าเราก็ต้องเล่นสองรอบ”
ตอนนี้กลับมารับงานในวงการบันเทิงเต็มตัวเลยไหม? “ตอนนี้กลับมารับงานแล้วนะคะ เพราะว่าลูกโตไปโรงเรียนแล้วก็รู้สึกว่างงาน ก่อนหน้านี้พี่หลุยส์กลัวว่าเราจะไม่ค่อยมีเวลาก็เลยไม่อยากให้รับงานแสดง แต่ตอนนี้รู้สึกว่าอยากที่จะรับงานของเราบ้าง อยากได้เจอทีมงานเดิมๆ ต้องย้อนไปว่าช่วงที่มีรูปแรกๆ เราก็หลงลูกเลี้ยงลูกไงคะ แต่ตอนนี้คือลูกทิ้งเราแล้วอ่ะค่ะ มีช่วงเวลาว่างแต่เช้าถึงเย็น เริ่มเหงา”
พออยู่ในบทบาทของความเป็นแม่แล้ว การที่จะเลือกรับบทต้องคิดเยอะขึ้นไหม? “ไม่นะคะ ส่วนตัวคิดว่าเราคุยกับลูกเราได้ คุยกันด้วยเหตุผล เกณฑ์ในการรับบทไม่มีอะไรเลยขอเป็นบทที่ตัวเองเล่นได้ ไม่ฝืนตัวเองมาก ส่วนบทเซ็กซี่บทแซ่บคิดว่าหุ่นมันไม่ได้แล้วค่ะ ไม่ใช่อายคนอื่นนะคะ อายตัวเองค่ะ ถามว่าถ้ามีมาจะรับพิจารณาไหม พอก่อนๆ ปล่อยแม่เถอะ”
เห็นยังถ่ายชุดว่ายน้ำสวยเซี้ยลงไอจีอยู่เลย? “อันนั้นก็มีบ้าง ไปเที่ยวทะเลจะให้ถ่ายเป็นชุดคลุมก็ไม่ได้ อีกอย่างมันแต่งรูปได้ไง ภาพเคลื่อนไหวมันแต่งไม่ได้ เราก็ต้องรู้สึกอายคนอื่นบ้าง (เรียกว่าไม่รับงานเซ็กซี่เลยใช่ไหม?) คิดว่าไม่มีใครเอาแล้วล่ะค่ะ ไม่ไหวค่ะ”
ถามถึงเรื่องที่สูญเสียคุณพ่อ ถือว่ากะทันหันไหม? “ไม่ค่ะ เราสู้กันมา 2 ปีแล้ว ที่ผ่านมาก็ทราบอยู่พอสมควร เรียกว่ามันก็เป็นไปตามระยะเวลา อีกอย่างคุณพ่อก็สู้เยอะมาก คุณพ่อป่วยเป็นโรคร้ายค่ะ ตอนแรกรักษาตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ เราก็จะไปหาเขาทุกวัน แต่ว่าไม่ได้โพสต์ตอนที่คุณพ่อป่วย เพราะไม่อยากให้ทุกคนเห็นคุณพ่อในสภาพแบบนั้น คุณพ่อก็คงจะเช่นกัน แต่ทุกอย่างก็ทำดีที่สุดแล้ว”
“ถามว่าก่อนที่คุณพ่อจะเสียมีการสั่งเสียอะไรไหม คุณพ่อรู้เรื่องหมดก่อนที่ท่านจะไป เขาขออย่างเดียวคือขอกลับไปบ้านที่เชียงใหม่ ทางโรงพยาบาลก็ดำเนินการให้ ตอนนี้ก็เดินหน้าต่อค่ะ แล้วก็ต้องขอบคุณกำลังใจจากเพื่อนๆ ส่งมาให้เยอะมาก เราอยากที่จะลงไอจีเยอะๆ แต่ว่ามันลงไม่ไหวจริงๆ”