ลีซอ ชีวิตเปลี่ยน จากนักเตะชื่อดัง ผันตัวเป็นคนขับรถ พร้อมเปิดตัวเจ้าสาว
ว่าที่เจ้าบ่าวอดีตนักฟุตบอลตัวจี๊ด ลีซอ ธีรเทพ จับมือแฟนสาว เฟี๊ยต อภิสรารัชต์ เผยโมเมนต์การขอแต่งงานสุดโรแมนติก กลางกรุงบูดาเปสต์ ประเทศ ฮังการี ฉลองรัก 9 ปี พร้อมกับประกาศฤกษ์แต่งงานครั้งแรก
คุกเขาขอแต่งงงานที่?
ลีซอ : กรุงบูดสเปสต์ ประเทศ ฮังการี ครับ คือจริงๆ จะไปเที่ยวช่วงปีใหม่กันอยู่แล้ว ผมคิดว่ามันไม่น่ามีช่วงไหนเหมาะเท่าช่วงนี้แล้ว เพราะสถานที่สวย แล้วเราดูโปรแกรมทัวร์ที่เราไป ตอนแรกเราปรึกษากับน้องสาวเฟี๊ยต คุณพ่อ คุณแม่ ว่าผมตัดสินใจแล้วว่าจะขอเฟี๊ยตแต่งงานในทริปนี้ ขออนุญาตคุณแม่โดยที่เขาไม่รู้ พาคุณแม่ไปดูแหวนซื้อแหวน
หมายถึงพาคุณแม่เขาไปเลือกแหวน?
ลีซอ : ใช่ แต่ผมเป็นคนเลือกก่อน แล้วให้คุณแม่ตัดสินใจ
เฟี๊ยตหายเขินยัง ไปไหนมาไหน มีแหวนอยู่ในมือ?
เฟี๊ยต : ปกติก็ใส่ตลอดนะคะ ตั้งแต่คบกันเขาก็ให้วงนี้น่าจะเป็นวงที่ 5 ได้แล้วมั้งค่ะ
ทำไมถึงเป็นวงที่5?
ลีซอ : ผมให้เขา เพราะเขาเป็นคนชอบจิวเวลรี่อยู่แล้ว แต่หลังๆ ไม่ให้แล้ว ถ้าให้บ่อยๆ เดี๋ยววันจริงๆ เขาจะไม่ตื่นเต้น
ทริปมาก่อนหรือว่าขอแต่งงานมาก่อน?
ลีซอ : ทริปมาก่อนเลย ทริปแค่ไปเที่ยวเฉยๆ แต่พอเราไปแล้วรู้สึกว่าปีนี้มันครบรอบ 10 ปีของเราพอดี วันที่ 9 เดือน 6 แล้วทริปที่เราไปมันเริ่มหลังปีใหม่พอดี แล้วที่นี่มันสวย เป็นวันที่ 1 มกราคม 2566 ก็คิดว่าน่าจะเหมาะแล้ว อีกอย่างผมเลิกเล่นฟุตบอลพอดีด้วย พร้อมดูแลเขาเต็มที่
วันนั้นมีน้องสาวมากระซิบไหม แม่มาบอกไหม?
เฟี๊ยต : ไม่มีเลยค่ะ ปกติซอเป็นคนที่จะเซอร์ไพรส์อะไรโดนจับได้ตลอด โกหกไม่เก่ง โดนจับได้ตลอด แต่ทริปนี้ เหมือนเรามีการเตรียมตัวแล้วนะ เพราะเราคิดว่ายังไงปีนี้แน่นอน ด้วยเขาพูดเกริ่น แล้วครอบครัว แล้วเพื่อนทุกคน เราเริ่มสงสัยแล้ว ปีนี้ต้องสวยตลอดเวลานะ ห้ามมีสักวันที่พร่อง
จริงๆ เราเตรียมตัวมานานแล้ว?
เฟี๊ยต : ก็คบกันมา 10 ปี มันต้องมีสักโมเมนต์หนึ่ง
ทริปนี้ใครไปบ้าง?
เฟี๊ยต : มีเฟี๊ยต คุณแม่ น้องสาว 2 คน แล้วก็เขา
ลีซอ : เป็นทริปบ้านเขาเลย ทุกคนรู้หมดแล้ว เพื่อนผม คนใกล้ชิดผมรู้หมดแล้ว ผมบอกว่าไปเที่ยวทริปนผมจะไปขอเขาแต่งงาน ทุกคนรู้หมดยกเว้นเขา
เล่าให้ฟังหน่อย โมเมนต์ตอนนั้นเราทำอะไรอยู่?
ลีซอ : ไม่รู้เรื่อง รู้ราว ไปถ่ายสตอรี่
เฟี๊ยต : คือด้วยความที่บรรยากาศมันสวย แล้วพี่คนนำทัวร์เขาบอกเราแล้วว่าที่ตรงนี้มันโรแมนติกนะ นู่นนี่นั้น แต่เราไม่ได้ตั้งใจฟังเลย เราจะถ่ายแต่สตอรี่ แล้วเราก็เรียกให้เขาไปถ่ายสตอรี่ให้เราหน่อยลงไอจี
แต่เราก็เอ๊ะ..ทำไมน้องๆ ทุกคนไม่มีใครสนใจเรา ปกติเราสองคนถ่ายรูปน้องจะคอยสแตนบายมาถ่ายให้ คอยช่วย แต่น้องก็ไปตั้งกล้องตรงหน้าโบสถ์ ทุกคนก็เหมือนมารุมกันหมด แล้วพี่ที่นำทัวร์เกริ่นมาว่าในทริปเรามีคนหนึ่งไม่สนุกเลย ไม่สบายใจ เขามีเรื่องราวอึดอัดใจ เราก็คิดว่าใครนะ
เพราะไปด้วยกันทั้งหมด 24 คน มันมีคณะอื่นไปด้วย แล้วไปรวมกัน เราคิดว่าใคร แต่พอสักพักพี่เขาก็เรียกลีซอออกมา เราก็คิดแล้ว ต้องมีอะไรแน่ๆ คนอย่างลีซอ จะไม่สบายใจ หรือมีเรื่องอึดอัดใจกับคนอื่น เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเขาเป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ดี
พอเขาเรียกซอออกไป เรียกเฟี๊ยตออกไป เราก็คิดแล้วต้องมีอะไรแน่ๆ เลย แล้วเช้าวันนั้นจะไม่แต่งตัวด้วย เพราะมันหนาวมาก แล้วมันไป 10 วันแล้ว ในใจเราคิดถ้าจะขอก็ต้องขอตั้งแต่วันแรกๆ ที่เรามีเอนเนอจี้อยู่ แต่นี่วันสุดท้ายจะกลับกันอยู่แล้ว เขาก็เกริ่นเลย ยังไม่ทันได้ทำอะไร น้ำตาเขาก็คลอแล้ว ครั้งแรกในชีวิตที่โดนขอแต่งงาน เราต้องคิดว่าต้องเป็นโมเมนต์ที่แบบ แต่พอเป็นวันจริง มันเร็วมาก
เขาเกริ่นว่าอะไร?
เฟี๊ยต : เขาเกริ่นมาเฟี๊ยตก็รู้แล้ว เขาบอกว่า เราผ่านร้อน ผ่านหนาวมา
ลีซอ : เราคบกันมา 10 ปีแล้ว ผ่านอะไรกันมาเยอะ แล้วผมก็สั่น แล้วเขาหันหน้ามาน้ำตาไหลแล้ว
เฟี๊ยต : เราเห็นเขาพูด น้ำเสียงเขา เราก็หันหน้าหลบแล้ว
ลีซอ : ก็บอกว่าคบกันมานาน ผ่านอะไรกันมาเยอะ อยากเปลี่ยนสถานะจากแฟน เป็นสามี-ภรรยา แล้ว แต่งงานกันนะ
เฟี๊ยตว่าไง?
เฟี๊ยต : ทำไมไม่บอกล่วงหน้า จะได้สวยจัดเต็มสักหน่อย แต่มันเป็นโมเมนต์ที่อบอุ่นมาก ทุกคนบอกว่าแต่งเลย แล้วมีต่างชาติที่เดินผ่านเขาก็มาแสดงความยินดีกับเรา
สำเร็จไหม?
ลีซอ : ถือว่าสำเร็จครับ
ฤกษ์แต่งงานวางแผนยังไงบ้าง?
ลีซอ : ก็น่าจะเป็นช่วง 19 พฤศจิกายน ตอนแรกได้ฤกษ์วันที่ 29 เมษายน แต่มันค่อนข้างเร็ว เราเลยคิดว่าไปพฤศจิกายนดีกว่า ตอนแรกมันเหมือนจะนานไปหน่อย แต่ว่าทุกคนลงความเห็น คุณแม่ผม คุณแม่เขา คิดว่ามันจะได้ไม่ต้องเร่งรัดมาก ให้มันพอดีๆ
แต่คนที่อยากให้เร็วๆ คือคุณพ่อ เขาอยากให้ผมแต่งตั้งแต่ 27-28 แล้ว เขาบอกอยากให้เหมือนนักฟุตบอลอาชีพต่างประเทศที่เขาแต่ง มีครอบครัวแล้วมีความรับผิดชอบ ผมบอกไม่ต้องใช้ครอบครัวมาให้ผมรับผิดชอบก็ได้ ผมรับผิดชอบเองได้ จนมาตอนนี้คุณพ่อไม่อยากให้มันยืดไปนาน อยากให้มันจบเร็วๆ แต่พอมันมีฤกษ์แบบนี้ทุกคนก็ลงความเห็นเหมือนกันว่า 19 พฤศจิกายน
วางแพลนไว้ไหมว่าอยากมีเบบี๋เลยไหม?
ลีซอ : จริงๆ เบบี๋ปล่อยมาสักพักแล้ว น่าจะเดือนที่4 แล้วก็ยังไม่มา
ถ้าปล่อยแบบนี้ถ้าอยู่ดีๆ ท้องขึ้นมา?
ลีซอ : ก็ขยับงานแต่งก่อนครับ เพราะล่าสุดเพิ่งมีรุ่นน้องเฟี๊ยตเป็นผู้หญิง แล้วแต่งงาน เขาท้อง 8 เดือน คือมาท้องใหญ่มาก ผมก็ไม่อยากให้เขาต้องมาเหนื่อยวันนั้น คนเยอะ ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจริงๆ อาจจะต้องเลื่อนไปอีก
เราก็ไม่ได้มายว่ามีน้องก่อนหรืออะไรยังไง?
ลีซอ : ไม่ซีเรียสครับ เราก็คบกันมานี่ปีที่10 แล้ว ทุกคนรับรู้หมด สมมติจะบอกว่าจะมาท้องก่อนแต่ง ที่แต่งงาน เพราะท้องก่อนหรือเปล่า ผมไม่ซีเรียส
เฟี๊ยสอยากได้ลูกชายหรือลูกสาว?
เฟี๊ยต : ได้หมดค่ะ ถ้าลูกชาย เผื่อเขาได้พ่อมา เป็นนักกีฬา เราจะได้ส่งเสริมเขาเต็มที่
ลีซอ : ผมอยากได้ลูกสาว ผมชอบเวลาเขาอ้อน แต่จริงๆ ก็ได้หมด ไม่ได้คาดหวัง
อะไรทำให้มั่นใจผู้ชายคนนี้?
เฟี๊ยต : คือซอเขาเป็นคน ทรงอย่าง แบด แซดอย่างบ่อย ลุคเขาดูเป็นแบดบอยมาก อาจจะเป็นความโชคดีของเฟี๊ยตมั้งค่ะ ที่มาเจอเขา ตอนที่เขาเริ่มเป็นผู้ใหญ่แล้ว เริ่มรู้จักเขาตอนเขา 28-29 ที่ผ่านมาเขาเป็นคนเสมอต้น เสมอปลายมาโดยตลอด คบเขา 10 ปีไม่เคยมีวันไหนที่ซอให้เฟี๊ยตนั่งแท็กซี่เลยสักครั้ง
ถ้าเขาติดงาน เขาก็จะมารับเฟี๊ยตไปส่งก่อนแล้วไปทำงาน และถ้าเขาอยู่ต่างประเทศเขาก็จะโทรหาน้องสาวหรือโทรหาใครที่ว่างให้ไปดูแล เขาเป็นแบบนี้ตลอดตั้งแต่ที่คบกัน เขาเป็นคนมีวินัย ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยว เขาเป็นคนรักครอบครัว จริงๆ พื้นฐานครอบครัว และพื้นฐานจิตใจเขาดี
คนนีัน่ารักยังไง?
ลีซอ : อันดับแรกเขาเป็นคนเก่ง ขยัน ฉลาด คือเขาเหมือนทำธุรกิจแล้วดูแลตัวเองมาตั้งแต่เรียนจบแรกๆ เลย แล้วผมก็อยู่กับเขามาซึมซับได้ว่าเขาเป็นคนเก่ง ดูแลตัวเองได้ หาเงินเองได้ เขาสมบูรณ์แบบด้านการทำงานมากๆ แล้วด้วยนิสัยเขา ทุกอย่างของเขามันเข้ากับเราได้
ช่วงแรกๆ ก็มีช่วงที่ต้องปรับตัว เราก็เห็นผู้หญิงสวยๆ หน้าตาดีๆ มาเยอะแล้ว แต่สุดท้ายคนที่อยู่กับเราแล้วช่วยนำพาเราไปในทางที่ดีขึ้น มันน้อย เขาส่งเสริมเราอีกด้านหนึ่งของชีวิต คือผมเก่งด้านกีฬาก็จริง แต่ว่าด้านอื่นๆ เราไม่ค่อยรู้ ไม่ค่อยชำนาญ
แต่เขาเป็นคนหนึ่งที่มาลองอย่างนั้นสิ อย่างนี้สิ เขาเป็นคนที่สอนเราเรื่องธุรกิจด้วย ก็เลยรู้สึกว่า เออมันน่าจะไปด้วยกันได้ดี
อะไรทำให้คุณเลิกเจ้าชู้?
ลีซอ : ก็เขานี่แหละครับ
เห็นบอกว่าตอนแรกพี่เฟี๊ยตไม่เอา แล้วคนรอบข้างก็ปฏิเสธ? เฟี๊ยต : ใช่ ตอนที่เขาเริ่มมาจีบเราก็จะมีน้องที่สนิทรู้ไปรายงานคุณแม่ บอกว่า แม่รู้จักไหม ลีซออเป็นนักฟุตบอลมาจีบเจ้นะ คำตอบแรกแม่บอกว่าไปบอกเจ้มึงเลยนะว่าอย่าไปยุ่งนะกับคนนี้มันแบดบอยมาก
แม่ต่อต้านมาก แบดบอยมาก เจ้าชู้มาก แม่เขาก็ดูจากข่าวที่ออกไป แต่ตอนนั้นเรายังไม่ได้อะไรกับเขาอยู่แล้ว แค่เขามาจีบเรา เขาก็เหมือนมาแอ๊ว ส่งไลน์มา เรารู้อยู่แล้วด้วยความเป็นเขา แต่เราชอบเวลาคุยกับเขา เพราะเขาเป็นคนตลก เขาเป็นคนที่คุยได้ทุกเรื่อง แล้วมีเรื่องให้หัวเราะ มีเรื่องแซว มีเรื่องมาคุยเล่น
ตอนแรกที่รู้จักกันเขามีแฟนอยู่แล้ว ครั้งแรกที่เขามาจีบเรา คำถามแรกที่ถามคือ มีแฟนหรือยัง เขาก็บอกว่ามีแล้ว เราก็บอกโอเค จะได้รู้ว่าสถานะที่เราคุยกันไปทางไหน เราจะได้เป็นเพื่อนกันนะ เพราะเขาเป็นเพื่อนของเพื่อนเฟี๊ยตอีกที มันก็อยู่ในก๊วนๆ เดียวกัน เขาก็โอเคไม่เป็นไร
แล้วมันมาเริ่มเปลี่ยนยังไง?
เฟี๊ยต : พอหลังจากที่คุย พอเรารู้จักกันใช่ไหม เหมือนไปแฮงค์เอาท์ในกลุ่มเดียวกัน แล้ววันหนึ่งเขามาบอกว่าขอคุยด้วยได้ไหม เฟี๊ยตก็ถามมีแฟนหรือยัง เขาบอกมีแล้ว แต่เราไม่เคยติดตามข่าวเขา แล้วเราไม่ใช่สายกีฬา เรารู้จักแค่ว่า ลีซอ
แต่เราไม่รู้ประวัติเขาหรอกว่าเขามีแฟนหรือไม่มี เราไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้น แต่พอเขาบอกว่ามีแฟนแล้ว เราก็โอเค ก็เหมือนเป็นเพื่อนกันไปเที่ยว แล้วไม่สนใจเลยนะ ไม่เคยโทรหาเขา แต่ว่าให้ไลน์ไป เพราะก่อนเราให้ไลน์เราไม่รู้ว่าเขามีแฟน มีอยู่วันหนึ่งเขาทักไลน์มา อยู่ไหนครับ
เราก็บอกว่ากำลังไปปาร์ตี้กับเพื่อน เขาถามไปที่ไหน เราบอกไปร้าน นั่งเล่น เขาบอกอ่อ ไปหาได้ไหม เดี๋ยวจะไปกับเพื่อน ไปเจอที่นู่นได้ไหม เราก็บอกได้สิ เพราะเราก็ไปกับเพื่อนเรา เขาก็มา พอเขามาปุ๊บก็เหมือนทักทาย แต่เราก็ไม่ได้สนใจเขาเลย เพราะเขาเริ่มรู้จักเพื่อนเราแล้ว เขาก็ไปชนแก้วกับเพื่อนเรา เราก็ไม่สนใจเขา เราอยู่กับสาวๆ ของเรา
จนกลับเราก็ไม่ได้อะไรกับเขาเลย จนเขาส่งไลน์มาบอกว่า เสียใจนะทำไมไม่สนใจเขาเลย ไม่คุยกับเขาเลย อุตส่ามาหา เราก็บอกว่า อ้าว…ก็เป็นเพื่อนกันไง แบ้วเราจะไปอะไร เขาก็โอเคๆ ไม่เป็นไร แล้วมีช่วงหนึ่งเขาก็หายไปเลย แล้วอยู่ดีๆ เขาก็ส่งกลับมาว่าเขาโสดแล้วนะ
ช่วงที่หายไปนานไหม?
เฟี๊ยต : หายไปเป็นอาทิตย์ๆ นะคะ
แสดงว่าตอนที่ไปหาที่ร้านนั่งเล่นคือยังมีแฟนอยู่?
ลีซอ : มี แต่ว่าปลายๆ ล่ะ
เฟี๊ยต : คือเขามีปัญหากันเราก็ไม่อยากยุ่ง
ลีซอ : ใช่ เลยขอไปเคลียร์ตัวเองก่อน
เฟี๊ยต : ใช่ เขาบอกว่าไปเคลียร์ตัวเองก่อรแล้วเขาจะกลับมาใหม่
คบกันได้ 2-3 ปี เพราะว่า?
เฟี๊ยต : เพราะว่าเรื่องผู้หญิง ปกติโทรศัพท์เขาไม่เคยห่างกายเลย วางก็ไม่ได้ อยู่กับตัวตลอด แล้วเรารู้สึกว่าช่วงหนึ่งพฤติกรรมเขาเปลี่ยนไป ช่วงเราคบกัน 2-3 ปีแรกจะไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน เราได้ยิน แต่ไม่เคยเห็น ไม่เคยจับได้เลยสักครั้งมเราไม่มีหลักฐาน
แต่พอวันหนึ่งเขาลืมวางโทรศัพท์ไปหยิบของ เราก็ไม่ทันได้หนิบ มันมีข้อความขึ้นมาหน้าจอ เหมือนไดเรกต์ไอจีมาว่า ที่รักค่ะ อยู่ไหน ตอนนั้นเราหน้าชาหมดเลย แต่ก็พยายามดูใหม่ มันอาจจะเป็นข้อความอะไรที่โดนแกล้งหรือเปล่า
เราก็หยิบโทรศัพท์ไปเลย เปิดเดี๋ยวนี้ ปลดล็อกเดี๋ยวนี้ เขาก็เหมือนลุคลี้ ลุกลน แล้วเหมือนเขาไม่ยอม เราบอกว่าถ้าไม่เปิดเราจะเขวี้ยงโทรศัพท์ให้แตกเลยนะ เขาก็เลยเปิด พอเข้าไปอ่านเท่านั้นแหละ ช็อกเลย
ตอนนั้นคุณทำยังไง?
ลีซอ : ทำตัวไม่ถูก ใจสั่นถึงตาตุ่มเลย แต่ผมก็ยอมหมด เล่าหมดเลย ไม่ต้องถาม
พอเล่าให้ฟังคือเลิกเลยเหรอ?
เฟี๊ยต : คือเราก็ถามเขา เขาก็ค่อยๆ สารภาพ แล้วมันเจ็บตรงที่ว่าช่วงที่เขาไปเจอกัน คือช่วงที่เราไปอินเดีย เราไปถือศีล ไปบวชที่อินเดีย 10 วัน บวชเพื่อเขา เพราะช่วงนั้นงานเขาเริ่มไม่ค่อยดี เหมือนกับเริ่มหลุดจากทีมชาติ 10 วันนั้น เราทำบุญให้เขาทุกวัน
แต่เขาไปนัดเจอกัน แล้วเขาเป็นคนสารภาพเองด้วย เขาบอกว่าเพิ่งไปเจอกันแค่ครั้งเดียวเอง เราก็ถามวันไหน เขาก็บอกวันที่เราไปอินเดีย เราก็เลยรู้สึกว่าถ้ายังไม่พร้อมก็เลิกกันไปก่อนดีกว่า ให้เขาไปใช้ชีวิตโสดให้เต็มที่ เขาก็ไม่ยอม ไม่ได้ นู่นนี่นั่น
เราก็เลยบอก งั้นแยกกันอยู่เลย คือแต่ก่อนเราอยู่ด้วยกันแล้วมันก็เลยเป็นที่มา ที่เพื่อนแซวว่า ลีซอโดนไล่ออกจากบ้าน ก็คือต่างคนต่างอยู่ แยกกันประมาณเกือบอาทิตย์ สองอาทิตย์
แล้วเขาแก้ตัวยังไง?
ลีซอ : ผมก็เลิกนิสัยนี้ ง้อเขา สุดท้ายโทรหาคุณแม่เขาสารภาพว่ามันเกิดปัญหาอะไรขึ้น แล้วให้คำมั่นสัญญากับคุณแม่เขา จะไม่ทำแล้ว จะพยายามปรับตัว
เฟี๊ยต : มีอยู่คำหนึ่ง เขารักน้องสาวเฟี๊ยตมาก เขาจะสนิทกันมาก แต่พอน้องรู้เรื่อง น้องบอกผิดหวังในตัวพี่มากเลย ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้ เขาก็มาเล่าให้ฟังว่ามันเป็นคำนี้ที่น้องเราพูด แล้วเขารู้สึกว่าเขาเจ็บมาก
วันนั้นแม่โทรมาบอกเราเลยไหม?
เฟี๊ยต : เราโทรไปบอกแม่เขา และแม่เราว่าขอยุติความสัมพันธ์นะ เรารู้สึกว่ามันไม่ได้ ไปต่อไม่ไหว แม่ก็เหมือนเรียกมาคุยกัน 2 คน แม่ก็บอกเราให้เขามาของ แล้วเขาก็มาพอดี แม่เฟี๊ยตนะคะ แล้วเขาก็มาขอโทษแม่ บอกว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ให้โอกาสเขาอีกสักครั้งได้ไหม แล้วเขาจะไม่ทำอีก
ลีซอ : อันนี้แม่เขานะ ส่วนแม่ผม ทำไมทำแบบนี้ ลูกผู้ชายทำแบบนร้ได้ไง มายับเลย
แล้วอะไรทำให้เราลองอีกครั้งกับผู้ชายคนนี้ จนวันนี้เราแต่งงานกับเขา?
เฟี๊ยต : เรารู้สึกว่าตลอดเวลาที่เราคบกันมา เขาไม่เคบมีเรื่องอะไรที่ไม่ดีเลย นอกจากเรื่องผู้หญิงที่เราจับได้แค่ครั้งนี้ ครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้เราจับได้แบบไม่มีหลักฐาน มันหาตัวตนไม่ได้
แต่พอครั้งนี้เราจับได้ เราก็โอเค เราลองให้โอกาสเขาอีกสักครั้งไหม เอาข้อดีและข้อเสียมาบาลานซ์กัน คือข้อดีเขาเยอะกว่าข้อเสีย ก็เลยให้โอกาสอีกครั้ง
ทำไมแขวนสตาร์ท? ลีซอ : ผมว่าฟุตบอลมันถึงจุดที่น่าจะสุดทางของผมแล้ว เราก็เลยคิดว่าน่าจะถึงเวลาแล้ว เราก็ 37 แล้วเต็มที่แล้ว อยากเปลี่ยนบทบาทในชีวิตไปอีกอย่าง
บทบาทนั่นคือ?
ลีซอ : คนขับรถ คือก่อนหน้าที่ผมจะเลิก มีโอกาสได้ไปทำงานกับเขาหลายครั้ง มีการประสานงานกับชาวต่างชาติบ้าง แล้วเวลาไปไหนมาไหน ถ้าเราขับรถ มันก็จะง่าย แล้วเขาเองก็คุยงานกับมือถือตลอด
ถ้ามีคนขับเราก็จะง่ายขึ้น เราเลยคิดว่าพอเราเลิกแล้วเรามีโอกาสไปทำงานกับเขาได้ ช่วยเขาในการประสานงานในด้านการใช้ภาษาต่างประเทศก็ได้
อยากจะบอกอะไรกับผู้หญิงคนนี้?
ลีซอ : อยากจะขอบคุณเขาที่อยู่ด้วยตลอด ทั้งช่วงเวลาที่ดีและไม่ดี และเป็นคนที่คอยแนะนำในอีกพาร์ทหนึ่งของชีวิตในการทำธุรกิจในการใช้ชีวิตคู่ ก็ขอบคุณ รักมาก
เฟี๊ยต : ให้เขาเป็นแบบนี้แหละ เป็นคนที่น่ารัก เป็นคนที่มีวินัย ถึงแม้จะเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้ว แต่ยังคงต้องมีวินัยเหมือนเดิม แล้วดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัว แล้วก็อยากให้เขาเลิกเล่นโทรศัพท์ ขับรถก็เล่นโทรศัพท์ ทุกอย่างคือโทรศัพท์หมด เป็นห่วง อันตราย
ลีซอ : โอเค ขอบคุณมากครับ
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama