สหภาพยุโรป (อียู) มีมติเห็นชอบเมื่อวันพุธ (19 พ.ค.) ให้เปิดพรมแดนแก่นักเดินทางจากภายนอกอีกครั้ง ซึ่งนักเดินทางเหล่านี้จะต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่อียูรับรอง ครบถ้วน หรือนักเดินทางจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงโรคโควิด-19 ต่ำ
การผ่อนคลายมาตรการการควบคุมการเดินทางเข้ามานี้ จะเปิดรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ ซึ่งวัคซีนที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก คือ แอสตร้าเซนเนก้า, จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน, โมเดอร์นา, ไฟเซอร์-ไบออนเทค และ ซิโนฟาร์ม
ส่วนรายชื่อประเทศที่เสี่ยงต่ำโรคโควิด-19 ต่ำ คาดว่าจะมีการเปิดเผยได้เร็วที่สุดในวันศุกร์ (21 พ.ค.)
การเคลื่อนไหวนี้คาดว่าจะเป็นวิธีช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่เศรษฐกิจพึ่งพาการท่องเที่ยว เช่น กรีซ และสเปน
ที่ผ่านมา ประเทศสมาชิกอียูชาติอื่น ที่เศรษฐกิจพึ่งพาการท่องเที่ยวน้อยกว่า โดยเฉพาะกลุ่มยุโรปเหนือ เห็นว่าอียูควรอนุญาตเฉพาะนักเดินทางที่มีความจำเป็นจริงๆ แต่ต่อมาก็ยอมลดเงื่อนไขเหล่านี้ลง หลังจากทั่วโลกมีความคืบหน้าเรื่องการฉีดวัคซีนมากขึ้น ขณะเดียวกันอียูก็ยอมให้ยกเลิกการผ่อนคลายนี้ได้ภายหลัง ถ้าหากพบว่าการผ่อนคลายนี้ทำให้เกิดการระบาดเพิ่มขึ้น