ทส. ลงดาบ อธิบดีกรมอุทยานฯ ผิดวินัยเรียกรับเงินจริง โทษสูงสุดไล่ออก

Home » ทส. ลงดาบ อธิบดีกรมอุทยานฯ ผิดวินัยเรียกรับเงินจริง โทษสูงสุดไล่ออก


ทส. ลงดาบ อธิบดีกรมอุทยานฯ ผิดวินัยเรียกรับเงินจริง โทษสูงสุดไล่ออก

“กก.สอบสวนข้อเท็จจริง ทส.” สรุปผลอธิบดีอุทยานฯ ผิดวินัยเรียกรับเงินจริง “ปลัดทส.” ตั้ง รองปลัดฯ สอบสวนวินัยต่อ ชี้โทษสูงสุดไล่ออก ส่วนสาวถึงตัวใหญ่หรือไม่โยนหน้าที่ตำรวจ

5 ม.ค. 65 – ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กรณีนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เรียกรับผลประโยชน์จากข้าราชการในสังกัด แถลงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวว่า

เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จึงมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในวันเดียวกัน และมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 28 ธ.ค. โดยมีข้อสรุปเบื้องต้นให้อธิบดีกรมอุทยานฯ มาช่วยราชการกระทรวงทรัพยากรฯ

แต่เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ นายรัชฎา ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงจึงไม่ได้มีการออกคำสั่งดังกล่าว ทั้งนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ตนเป็นประธาน มีหน้าที่หาข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน

โดยนำเอาข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่ปรากฏในสื่อมวลชน ผู้ที่ปรากฏชื่อรวมทั้ง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) และ นายรัชฎา มาชี้แจงข้อมูลแล้ว โดย นายรัชฎา ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และจะนำเอกสารอธิบายข้อกล่าวหาซึ่งจะต้องมายื่นให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ชุดของตน ภายในวันที่ 10 ม.ค.นี้

นายกุศล กล่าวว่า นอกจากนี้ยังพิจารณาข้อมูลการจับกุมของตำรวจในบางส่วน ก่อนสรุปรายงานและส่งให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ รับทราบ ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องต้น

พบว่า มีมูลความผิดทางวินัย ในการเรียกรับเงินจริง ส่วนรายละเอียดในการสอบสวนคงไม่สามารถให้ข้อมูลได้ โดยนายจตุพร ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวยวินัยร้ายแรง นายรัชฎา ซึ่งถือว่า เป็นกระบวนการทำงานตามระเบียบข้าราชการพลเรือน

อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่เห็นคำสั่งดังกล่าว จึงไม่ทราบว่า ใครเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ซึ่งโดยปกติแล้วระยะเวลาในการดำเนินการจะใช้เวลาประมาณ 30 วันในการดำเนินการ แต่เนื่องจากมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากจึงอาจขยายระยะเวลาได้

เมื่อถามว่า จะมีผู้เกี่ยวข้องที่เหนือกว่า นายรัชฏาหรือไม่นั้น นายกุศล กล่าวว่า ตนไม่ทราบ จะทราบก็ต่อเมื่อได้มีการดำเนินคดีทางอาญา เมื่อถึงวันนั้นก็คงจะทราบตัวผู้เกี่ยวข้องจากกระบวนการยุติธรรม ซึ่งไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของกระทรวง

กระทรวงทรัพยากรฯ ซึ่งมีหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงและลงโทษทางวินัยเท่านั้น ส่วนคดีอาญาเป็นเรื่องของศาล เป็นเรื่องของป.ป.ช.ที่จะส่งเรื่องให้ศาลพิจารณาต่อไป ทั้งนี้โทษวินัยที่ก็มีตั้งแต่ภาคทัณฑ์ จนถึงไล่ออก

เมื่อถามว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่ที่จะพบเงินหลักล้านในห้องอธิบดี นายกุศล กล่าวว่า คิดว่าไม่ใช่เรื่องปกติที่จะพบเงินจำนวนมากในห้องอธิบดี เพราะสมัยนี้คนส่วนใหญ่ใช้เครดิตการ์ดแทนเงินสดกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ได้ลงนามแต่งตั้งนายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนายรัชฎา ก่อนเดินทางไปปฏิบัติภารกิจยังต่างประเทศ

ทั้งนี้ นายเถลิงศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเพิ่งเห็นคำสั่งแต่งตั้ง จึงยังไม่สามารถบอกอะไรได้มากนัก แต่ในเบื้องต้นจะเรียกประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อหากรอบแนวทางในการสอบสวนทางวินัย นายรัชฎา

โดยจัดแผนว่า จะเชิญใครมาสอบสวนหรือให้ข้อมูลในวันเวลาใดบ้าง และกรอบการทำงานจะมีแนวทางอย่างไร โดยคำสั่งนี้มีกรอบระยะเวลาในการทำงานภายใน 30 วัน ซึ่งตนจะทำงานอย่างเต็มที่ ตอนนี้คงบอกอะไรมากไม่ได้ ต้องรอผู้เกี่ยวข้องก่อน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ