ก้าวไกล ลั่นข้อมูลอภิปรายตามมาตรา 152 ทำรัฐบาลสะเทือนแน่ ชี้ชื่อนายกฯ คนใหม่ มีความสำคัญต่อทิศทางการเมือง หากเหมือนปี 62 ประชาชนจะไม่ทน
วันที่ 4 ม.ค.2566 นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์การเมืองต้องดูใน 2 เงื่อนไข คือ 1.ขณะนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ยื่นอภิปรายทั่วไปรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 แล้ว คาดว่าจะเปิดอภิปรายได้ปลายเดือนม.ค. ก็อยากให้ติดตามว่าข้อมูลที่พรรคร่วมฝ่ายค้านนำเสนอนั้น แม้จะอภิปรายทั่วไปแต่น้ำหนักหรือประเด็นที่จะอภิปราย เทียบเท่ากับการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ฉะนั้น อาจสั่นสะเทือนต่อรัฐบาลตั้งแต่ตอนนี้เลยก็ได้
2.เราเชื่อมั่นว่าในปีนี้ต้องเกิดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นแน่ เร็วสุดอาจเป็นเดือนมี.ค. หรือช้าสุด ต้นเดือนพ.ค. ฉะนั้น เมื่อเกิดการเลือกตั้ง คงต้องดูคณิตศาสตร์ทางการเมืองว่าแต่ละพรรคจะมีคะแนนรวมเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าหากเป็นฝ่ายค้านในปัจจุบัน หรือเป็นฝ่ายประชาธิปไตย หากคะแนนมากพอ น่าจะนำไปสู่การปิดสวิตช์ส.ว. ในการเลือกนายกฯไปโดยอัตโนมัติ แม้ในทางกฎหมายอาจจะปิดไม่ได้
ฉะนั้น ชื่อของนายกฯ คนใหม่ จะมีความสำคัญต่ออนาคตและทิศทางการเมืองของไทย ส่วนเงื่อนไขอีกประการหนึ่ง ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะตามมาคือ กรณีที่หาคณิตศาสตร์ทางการเมือง หรือท้ายที่สุดผลการเลือกนายกฯ ไม่ตรงกับสิ่งที่ประชาชนมอบความไว้วางใจกับพรรคการเมือง เช่น อาจมีการผิดมารยาททางการเมือง กรณีบางพรรค โดยเฉพาะพรรคที่เกี่ยวข้องกับการสืบทอดอำนาจ และไม่ได้คะแนนสูงสุด ส่งแคนดิเดตลงชิงนายกฯ แต่กลับได้รับแรงสนับสนุนจากส.ว. เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในปี 2562
แต่หากเป็นสถานการณ์เช่นนั้นจริง จะเป็นอีกครั้งที่ประชาชนจะไม่ทนอีกแล้ว หากถึงปีหน้าจะครบ 9 ปี เพราะไม่ใช่แค่ประเด็นทางการเมือง แต่ส่งผลกระทบต่อปัญหาปากท้อง หากเงื่อนไขที่ 2 ไม่เป็นตามนั้นเงื่อนไขนี้ก็จะตามมา