“อนุทิน” ขอมีน้ำใจนักกีฬา อย่าจับผิดแต่ ภท. ยัน ส.ส.ไหลเข้าออกไม่ใช่นวัตกรรมใหม่ วอนหยุดด้อยค่ากันเองด้วยคำว่า”เนรคุณ” เพราะเท่ากับด่าประชาชน
วันที่ 28 ธ.ค.65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงพรรคภูมิใจไทยในปีหน้าจะมีนักการเมืองทยอยมาเข้าร่วมกับพรรคมากกว่าคราวเปิดรับสมัครสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมาหรือไม่ว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นได้หมด ถ้าการเมืองถึงคราวเปลี่ยนวาระหรือทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง สมัยก่อนปี 2535 คนวิ่งเข้าพรรคประชาธิปัตย์ ปี 2538 วิ่งเข้า พรรคชาติไทย ปี 2539 วิ่งเข้า พรรคความหวังใหม่ ปี 2544 วิ่งเข้าพรรคไทยรักไทย แล้วปี 2566 ถ้าคนจะวิ่งเข้าพรรคภูมิใจไทยมันแตกต่างจากอดีตตรงไหน
“ไม่เห็นเป็นเรื่องใหม่หรือนวัตกรรมใหม่ แต่ถือเป็นเรื่องปกติ พรรคภูมิใจไทยมีทั้งคนเข้าและออก ที่เป็นส.ส. หรือผู้สมัครส.ส.ออกไปจากพรรคก็มี ทำไมตรงนี้ไม่มองว่าเป็นงูเห่าหรือพลังดูดบ้าง ไม่เห็นพูดถึง แต่พอมีคนเข้ามาพรรคภูมิใจไทยเป็นเรื่องเลย” นายอนุทิน ระบุ
นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยแตกต่างจากพรรคอื่น คือใครจะมาใครจะไปเรายินดีหมด ใครจะไปเราถามคำหนึ่ง ถ้าเขายังยืนยันจะไป ก็ต้องบอกว่าโชคดีนะ ไปทำงานให้กับบ้านเมืองนะ ไม่มีอะไรอะไรโกรธกัน สบายใจได้ พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ
“เราไม่มีการไล่ส่ง ไม่แดกดัน ไม่ด้อยค่า หรือไปดูถูกพรรคที่ไปสังกัด ไม่วิเคราะห์ว่าเขาจะได้หรือตก เพราะเขาเลือกทางเดินแล้ว คนมีน้ำใจนักกีฬา ก็ต้องบอกว่าขอให้ไปดี ให้สำเร็จ มีตำแหน่งแห่งหน ทำไมต้องมานั่งด่าเขา สาปแช่งเขา ไม่มีประโยชน์ การที่เราไปด่าเขาก็เท่ากับว่าไปด่าประชาชนที่สนับสนุนเขา แล้วเป็นผู้แทน เป็นนักการเมือง เป็นรัฐมนตรี คุณด่าประชาชนได้หรือไม่ มันสมควรทำหรือไม่” นายอนุทิน กล่าว
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวด้วยว่า ในอดีตพรรคภูมิใจไทยยิ่งเล่นการเมืองเพื่อนยิ่งหาย คนที่เคยรักนับถือต้องอยู่คนละข้าง เมินใส่กัน ทั้งที่ไม่มีเรื่องโกรธเคือง เราจะทำให้ความสัมพันธ์ที่เล่นการเมืองกันมามันหายไปหมดเลยหรือ มันได้อะไรขึ้นมา อายุก็มากขึ้น แก่ตัวขึ้น แล้วยังจะมาทะเลาะกันเพื่ออะไร พรรคภูมิใจไทยประสบเรื่องเหล่านี้มาตลอด ถึงมีความอดทนสูง ถูกดูถูกเหยียดหยาม เราจะไม่ทำอย่างที่เคยโดนมาเด็ดขาด
“คำว่าเนรคุณไม่สมควรใช้ในทางการเมือง เพื่อโจมตีกัน ขอถามว่าไปเอาเงินเขามาหรือไม่ พูดตรงๆคือเป็นส.ส.ประชาชนเลือกเขามา เมื่อเข้ามาในสภาฯแล้วเลือกหัวหน้าพรรคของตัวเองเป็นนายกฯ ก็ตอบแทนกันแล้วจบแล้ว นายกฯก็ลงพื้นที่ให้ผู้แทนฯก็ตอบแทนกลับ ขณะที่ ผู้แทนฯก็ยกมือไว้วางใจนายกฯ หรือรัฐมนตรี ทุกครั้งมันมีการต่างตอบแทนกัน
ฉะนั้น คำว่าเนรคุณมันเป็นศัพท์ หรือวาทกรรมที่ผลิตขึ้นมาเท่านั้น ซึ่งความเป็นจริงมันไม่มี หัวหน้าพรรคคนไหนที่จะมีบุญคุณมากพอที่จะให้ลูกพรรคติดหนี้บุญคุณ ถึงใช้คำว่าเนรคุณได้ ทุกคนเข้ามาเพราะประชาชน ไม่ได้เข้ามาเพราะเงินหัวหน้าพรรค” นายอนุทิน กล่าว