คําว่า “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูในทางการเมือง” ถือได้เป็น “ยอดคำเท่”
ไม่ว่าจะเสนอผ่าน นายไพศาล พืชมงคล อดีต “กุนซือ” ทางการเมือง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ไม่ว่าจะเสนอผ่าน นายเนวิน ชิดชอบ
โดยเฉพาะเมื่อมีความเห็นร่วมในโอกาสที่พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง
แม้กระทั่ง “คอมเมนเตเตอร์” ของ “วอยซ์” ก็ประสานขานรับ
มองจาก นายไพศาล พืชมงคล อาจไม่ชัดต้องมอง นายเนวิน ชิดชอบ
เพราะ นายเนวิน ชิดชอบ เคยเป็น “มือขวา” เดินเรียงอยู่เคียงข้างกับ นายทักษิณ ชินวัตร ในรัฐบาลพรรคไทยรักไทยอย่างชนิดประกบติด
แต่แล้วก็หันไปจับมือกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
สร้างปรากฏการณ์โอบกอดกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยืนยันการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ภายหลังยุบพรรคพลังประชาชนในปี 2551
ภาพนั้นมาพร้อมกับคำว่า “มันจบแล้วนาย”
หากมองจาก “มันจบแล้วนาย” ประสานกับ “ตีหนู ไล่งูเห่า” อาจมืดทึบตีบตัน
แต่เมื่อมองผ่านบางถ้อยคำของ นายเนวิน ชิดชอบ ว่า กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กับกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยมิได้เป็น “ศัตรู” กัน
แม้แต่ นายทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นมิตรกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล
จากสภาพความเป็นจริงเช่นนี้จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่พรรคภูมิใจไทยจะปฏิเสธพรรคเพื่อไทย หรือพรรคเพื่อไทยจะปฏิเสธพรรคภูมิใจไทย
โอกาสร่วมรัฐบาลกันจึงมีความเป็นไปได้สูงอย่างยิ่ง
เมื่อฟัง นายไพศาล พืชมงคล ประสานกับ นายเนวิน ชิดชอบ ก็เกิดความเคลิ้ม
เคลิ้มถึงกับมองเห็นภาพรัฐบาล “ใหม่” ในปี 2566 เป็นรัฐบาลแห่งความปรองดองสมานฉันท์ พรรคเพื่อไทยเป็นมิตรกับพรรคภูมิใจไทย
“ลุงป้อม” แย้มยิ้มโอภากับ “โทนี่ วู้ดซัม”