สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย และราชบุรี จัดใหญ่ “ศึกมาตุภูมิ มวยไทย” สนับสนุนโดยกองทุนกีฬา ดัน “มวยไทย” นำร่องสู่พัฒนาเป็นอาชีพ สร้างชื่อเสียง และขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้ชาติ
จังหวัดราชบุรี ร่วมกับ สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย, กกท. และกองทุนพัฒนาการกีพาแห่งชาติ จัดโครงการนำร่อง แข่งขันมวยไทยอาชีพ “ศึกมาตุภูมิ มวยไทย” Muaythai Motherland ดัน “กีฬามวยไทย” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับประเทศ รวมทั้งรณรงค์ให้ประชาชน ทุกกลุ่มอาชีพ ทุกเพศ และวัย มีทัศนคติที่ดีต่อกีฬามวยไทย ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติ ให้พัฒนาอาชีพ สร้างชื่อเสียง และสร้างรายได้ ให้แก่ประเทศไทย
นายอังกูร ศีลาเทวากูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานเปิดการแข่งขันมวยไทยอาชีพ “ศึกมาตุภูมิ มวยไทย” Muaythai Motherland ที่เวทีมวยชั่วคราวสนามกีพาจังหวัดราชบุรี โดยมี ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีพาแห่งชาติ (NSDF) และผู้แทนจากสำนักงานมวย และกกท จังหวัดราชบุรี นักกีฬา ผู้ฝึกสอน เจ้าของค่ายมวยไทย แฟนกีฬาชาวไทย ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ซึ่งการแข่งขันมวยไทยอาชีพ “ศึกมาตุภูมิ มวยไทย” Muaythai Motherland ครั้งนี้ ทางจังหวัดราชบุรี ได้ร่วมกับ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF), การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดราชบุรี และสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ (IFMA) จัดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดร.สุปราณี คุปตาสา กล่าวว่า กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ในฐานะผู้รับผิดชอบหลักในการส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาการกีฬาของชาติ ได้ให้ความสำคัญในการใช้กิจกรรมกีฬา เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยหนึ่งในชนิดกีฬา ที่ถือได้ว่าเป็นศิลปะการต่อสู้และเอกลักษณ์ประจำชาติไทย ได้แก่ มวยไทย ที่มีศักยภาพในการแข่งขันและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จึงได้ร่วมกับ จ.ราชบุรี เป็นโครงการนำร่อง การจัดแข่งขันมวยไทยอาชีพ “ศึกมาตุภูมิ มวยไทย” Muaythai Motherland ในครั้งนี้
ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดแข่งขันมวยไทยอาชีพ “ศึกมาตุภูมิ มวยไทย” Muaythai Motherland ในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.การจัดกิจกรรมแข่งขันกีฬามวยไทย จำนวน 10 คู่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและรณรงค์ให้ประชาชน ทุกกลุ่มอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย มีทัศนคติที่ดีต่อกีฬามวยไทย ให้เกิดการรับรู้ในรูปแบบชนิดกีฬา ที่เป็นการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) และ 2.ประชาสัมพันธ์กิจกรรมกีพามวยไทย เพื่อสื่อสารให้ ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้รับรู้ศิลปะแม่ไม้มวยไทย ส่งเสริมให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีของกีฬามวยไทย ในการเป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติ ที่มีส่วนในการพัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ โดยจะขยายการจัดกิจกรรมออกไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย เพื่อสร้างรายได้และสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยต่อไป
3. ปรับใช้ระบบการจัดการแข่งขันมวยไทยมาตรฐานสากลโดยใช้หลักวิทยาศาสตร์การกีฬามาช่วยวัดมวลน้ำในร่างกายนักมวยไทย และการให้คะแนนอย่างโปร่งใส ยุติธรรม ทำให้แฟนมวยไทยสนุกกับการเชียร์ ทั้งในสนาม และทางบ้าน