ต้นสังกัด “วิน เมธวิน” ส่งทนายแจ้งความจับเกรียนทวิตฯ โพสต์หมิ่น ทำเสื่อมเสีย
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 65 GMMTV ต้นสังกัดนักแสดงหนุ่ม “วิน เมธวิน” ออกแถลงการณ์แจ้ง ส่งทนายความเป็นตัวแทนของนักแสดงหนุ่ม เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความเอาผิดกับผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
GMMTV ขอแจ้งให้ทราบว่า ทางบริษัทฯ ได้มอบอำนาจให้ทนายความเป็นตัวแทนของนักแสดงในสังกัด “วิน–เมธวินโอภาสเอี่ยมขจร” เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษ ผู้ใช้แอพพลิเคชั่นทวิตเตอร์ชื่อบัญชีว่า“I want you @SaiSingWan1”
ในฐานความผิดข้อหาหมิ่นประมาโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ประกอบมาตรา 328 และดูหมิ่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393
ทั้งนี้หากปรากฎการกระทำเช่นนี้ ไม่ว่ากรณีใดๆ กับนักแสดงในสังกัด ทางบริษัทฯ จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด
จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
ทั้งนี้ตามข้อมูล ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 พระราชบัญญัติทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 มาตรา 11 (3) และมาตรา 39 ได้ระบุว่า
“การนินทาคนอื่นลงในไลน์กลุ่ม อาจเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาท เพราะเป็นการใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่ 3 โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326
การโพสต์เฟสบุคด่าคนอื่น, ประจานเมียน้อย, ประจานลูกหนี้, ทวงถามหนี้ลูกหนี้ผ่านทางเฟสบุค ระบุชื่อ-นามสกุล ลงรูป โดยมีลักษณะเป็นการเผยแพร่ข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทออกไปยังสาธารณชน หรือประชาชนทั่ว เป็นความผิดอาญา ฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และมาตรา 328 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 2 แสนบาท
และการทวงถามหนี้ลูกหนี้ทางเฟสบุค จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 ตามมาตรา11 (3) ที่บัญญัติว่า ห้ามผู้ทวงถามหนี้กระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะการแจ้งหรือเปิดเผยเกี่ยวกับความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้แก่ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทวงถามหนี้ ซึ่งมีโทษตามมาตรา 39 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ
สำหรับ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393 ชี้ระบุว่า “ผู้ใดดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”