ผงะ! โจ๋วัย 12-17 ปี ตั้งแก๊งตระเวนขโมยจยย. ชำแหละขาย รวบได้คาชุดนักเรียน ตะลึงแยกชิ้นส่วนซ่อนทั้งในบ้าน ในน้ำ บนหลังคา อ้างทำครั้งแรก

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆ ของ จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งบริเวณรอบที่ว่าการอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งบันทึกภาพคนร้ายเป็นวัยรุ่น 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้าไปภายในที่ว่าการอำเภอน้ำพอง สักพักก็พบวัยรุ่นขับรถคันดังกล่าวออกมาเพียงคนเดียว หลังก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ของนักเรียนชั้น ม.6 ที่จอดไว้ด้านข้างที่ว่าการอำเภอน้ำพอง

ต่อมานายฉัตรชัย โลหะมาตย์ กำนันตำบลหนองกุง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง ได้เข้าควบคุมตัว ด.ช.บี อายุ 12 ปี, ด.ช.เอ อายุ 14 ปี, ด.ช.ฟรุ๊ค อายุ 13 ปี, ด.ช.ปอน อายุ 14 ปี, ด.ช.อาร์ท อายุ 14 ปี และนายโฟร์ค อายุ 17 ปี ที่ร่วมกันก่อเหตุ

โดย ด.ช.อาร์ทและ ด.ช.ปอน เป็นคนลงมือขโมยรถแล้วนำมาพักและแยกชิ้นส่วนที่บ้านนายโฟร์ค ส่วนที่เหลือเป็นผู้ร่วมแยกชิ้นส่วน จึงคุมตัวมาทำค้นหาของกลางที่บ้านหลังหนึ่ง ม.11 ชุมชนประชานิมิตร ต.วังชัย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของนายโฟร์ค พบอุปกรณ์รถจักรยานยนต์ที่ชำแหละแล้ว ประกอบด้วย ล้อรถ โช้ค และอะไหล่บางส่วน

นายฉัตรชัย กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดสารภาพว่าขโมยรถมาจากที่ว่าอำเภอตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา แล้วนำมาซ่อนไว้ที่บ้าน จากนั้นในยามวิกาลจึงรวมตัวกันมาชำแหละ ก่อนจะตระเวนเอาไปซ่อนไว้หลายจุด ในระหว่างการค้นหาของกลางนั้น ผู้ต้องหาได้พาเจ้าหน้าที่ไปยังจุดซ่อนอะไหล่ โดยตัวเครื่องนำใส่กระเป๋าเดินทางไปซ่อนไว้ในบ้านร้างที่ป่าโรงสีใหญ่ ส่วนโครงรถนำไปโยนไว้ในหนองห้วยซัน หนองน้ำท้ายหมู่บ้าน เฟรมรถเอาไปซ่อนบนหลังคาบ้าน โดยให้การว่าทำครั้งแรก

“เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะจุดที่รถคันดังกล่าวหาย พบถูกขโมยทั้งคัน บ้างก็ถูกขโมยล้อ ท่อไอเสีย เด็กนักเรียนกลุ่มนี้มาจากหลายหมู่บ้านหลายตำบล เมื่อได้รถมาจะชำแหละชิ้นส่วนและนำไปซ่อนไว้ พอเรื่องเงียบจะนำออกมาแลกเปลี่ยนบ้าง ขายบ้าง โดยอะไหล่ที่มีราคาสูงสุดคือเครื่องยนต์ ขายในราคา 3,000-4,000 บาท”

ขณะที่นายชลธี อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในอำเภอน้ำพอง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 110 ไอ สีน้ำเงินหมายเลขทะเบียน 1 กณ 2855 ขอนแก่น ไปจอดไว้บริเวณด้านข้างที่ว่าการอำเภอ แล้วเข้าเรียนตามปกติ กระทั่งเวลา 15:30 น. เลิกเรียนออกมาพบว่ารถหายไป จึงแจ้งกำนันตำบลหนองกุงเพื่อให้ช่วยตามหา รู้สึกเสียใจไม่คิดว่าเด็กนักเรียนจะรวมแก๊งก่อเหตุลักษณะนี้