กุศลสุดท้าย! ญาติยินดีบริจาคอวัยวะหนุ่ม 17 สมองตาย ช่วยได้ 4 ชีวิต เสียดายข้อจำกัด ไร้เที่ยวบินขนส่งไม่งั้นช่วยได้ถึง 6 คน ยายเผยหลานเคยพูดเอาไว้
วันที่ 15 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ ร.พ.เพชรบูรณ์ นพ.นิติ เหตานุรักษ์ ผอ.ร.พ.เพชรบูรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหาร มอบเกียรติบัตรและหรีดเคารพศพของศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย และศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ให้แก่ นายพัชรพล มีศิลป์ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ต.กันจุ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ที่เสียชีวิตและญาติได้บริจาคอวัยวะและกระจกตาเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้อื่นได้อีก 4 ราย โดยมี นางสร้อยสุดา มีศิลป์ อายุ 38 ปี แม่ และ นางรำพัน มีศิลป์ อายุ 56 ปี ยาย เป็นตัวแทนรับมอบ
นางรำพัน เปิดเผยว่า หลานชายอาศัยอยู่กับตนตั้งแต่เด็ก เนื่องจากแม่ต้องไปทำงานต่างจังหวัด ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.6/2 โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ต.กันจุ ที่ผ่านมา หลานมีจิตใจที่เป็นจิตอาสา มีความเสียสละ ชอบช่วยเหลือเพื่อนๆ และช่วยเหลืองานต่างๆ ของโรงเรียนมาโดยตลอด เมื่อสามารถบริจาคโลหิตได้ จึงได้ไปบริจาคโลหิตทุกๆ 3 เดือน โดยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา และตั้งใจไว้ว่าวันที่ 15 ธ.ค.นี้จะไปบริจาคอีก แต่ก็มาประสบอุบัติเหตุเมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 ธ.ค.เสียก่อน
โดยก่อนเกิดเหตุหลานขี่รถจยย.ไปหาเพื่อน และเกิดอุบัติเหตุชนกับรถยนต์ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนถูกนำตัวส่ง ร.พ.บึงสามพัน เนื่องจากอาการสาหัสมาจึงได้ส่งต่อมารักษาที่ ร.พ.เพชรบูรณ์ แต่แพทย์ได้แจ้งว่าก้านสมองตาย ซึ่งถือว่าเสียชีวิตแล้ว และได้มีพยาบาลเข้ามาพูดคุยถึงเรื่องบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้อื่น ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สามารถนำอวัยวะไปช่วยเหลือผู้อื่นได้
อีกทั้งที่ผ่านมาหลานชายพูดเสมอว่า อยากจะบริจาคอวัยวะให้กับโรงพยาบาล ซึ่งถ้าหากพร้อมเมื่อไหร่ก็จะไปบริจาคทันที ตนจึงตัดสินใจทำตามความตั้งใจของหลานเป็นครั้งสุดท้าย และบุญกุศลในครั้งนี้ขอให้หลานชายไปสู่ภพภูมิที่ดี เกิดชาติหน้าขอให้สมหวังในสิ่งที่ตั้งใจ โดยหลานชายตั้งใจอยากจะเป็นทหารรับใช้ชาติ เมื่อเรียนจบแล้วจะไปสมัครเป็นทหาร แต่ก็มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อน
ด้าน นางชไมพร สีทอง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ หัวหน้าศูนย์รับบริจาคอวัยวะ ร.พ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า คนไข้ได้รับอุบัติเหตุถูกส่งตัวมาจาก ร.พ.บึงสามพัน เมื่อมาถึงแพทย์ได้ตรวจรักษาพบว่าก้านสมองตาย ซึ่งในทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว จึงได้ไปแจ้งญาติพร้อมทั้งแจ้งถึงโครงการบริจาคอวัยวะของสภากาชาดไทย ซึ่งญาติก็ได้ตัดสินใจยินดีที่จะบริจาคทันที เพราะเป็นความประสงค์ของผู้เสียชีวิต
ซึ่งอวัยวะที่ได้ประกอบด้วยกระจกตา 2 ข้าง ไต 2 ข้าง สามารถนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่นอีก 4 ราย ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตรายนี้มีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง และญาติประสงค์ที่จะบริจาคอวัยวะทุกส่วนที่สามารถไปช่วยชีวิตคนอื่นได้ แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดในการเดินทางระหว่างการขนส่งอวัยวะที่สำคัญเช่นหัวใจ ที่จะต้องเปลี่ยนถ่ายจากผู้ให้ไปผู้รับ ต้องใช้ระยะเวลาไม่เกิน 4 ชั่วโมง ซึ่งเพชรบูรณ์ไม่มีเที่ยวบินที่จะมารับหรือขนส่งได้ตามกำหนดระยะเวลา จึงเป็นสิ่งที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะไม่เช่นนั้นก็สามารถได้หัวใจและตับเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยเพิ่มได้อีกถึง 2 ราย