FootNote:กรณี จาก มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ สัญญาณ เตือน เพื่อไทย “ตรง”
ก้าวย่างของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่เหยียบและแหย่งเข้าไปในพรรคพลังประชารัฐ กำลังเป็น “บทเรียน” อันน่าเจ็บปวดอย่างลึกสุดใจ
อาจเป็นเพราะท่วงท่าและอาการอันเป็นเอกลักษณ์ของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เองที่กลายเป็นปัญหา
กระนั้น ก็ต้องยอมรับว่าไม่ว่าตัวของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ไม่ว่าเหตุผลอันเป็นข้ออ้างในการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ มีความละเอียดอ่อน
เนื่องจากบทบาทของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นบทบาทที่วิพากษ์พรรคพลังประชารัฐ และเป็นบทบาทที่วิพากษ์วิถีแห่งอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ข้ออ้างที่ว่า ณ วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มิได้มีบทบาทอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ คล้ายกับจะเป็นความชอบธรรม แต่ในความเป็นจริงมิได้ง่ายดายเช่นนั้น
การเสนอแนวทางร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ โดยแยก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงอาจฟังดูโอ่อ่าอลังการแต่กลับเป็นปฏิบัติการ “ขว้างงูไม่พ้นคอ”
ตรงนี้คือปัญหา ตรงนี้คือความละเอียดอ่อนในทางการเมือง
มีความเชื่อในทางการเมืองว่าหาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สามารถสร้างเงื่อนไขในทางการเมืองโดยตัด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไป นั่นเท่ากับเป็นโอกาส
เป็นโอกาสที่พรรคพลังประชารัฐจะสามารถสร้างพันธมิตรทางการเมืองแม้กระทั่งกับพรรคเพื่อไทย
กรณีของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ กำลังเป็นกรณี “ตัวอย่าง”
ในความเป็นจริง สัมพันธ์ทางการเมือง จะสามารถตัดขาดออกจากกันโดยไม่มีเยื่อใย และการผูกร้อยยึดโยงในทางผลประโยชน์จริงละหรือ
จะแยก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และก่อให้เกิดพันธมิตรในแนวร่วมใหม่ทางการเมือง ดังที่พรรคเพื่อไทยปรารถนาได้แค่ไหนเพียงใด
สถานะของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เท่ากับเป็นคำตอบ
มีความพยายามสร้างภูมิทัศน์ในทางการเมืองที่ลากดึงเอาพรรค พลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย มาเป็นแนวร่วมใหญ่หลังการเลือกตั้งปี 2566
เน้นว่าเป็นการปรองดอง สมานฉันท์ ละทิ้งความยึดติดเดิม
ถามว่าข้อเสนอเช่นนี้พรรครวมไทยสร้างชาติเห็นด้วยหรือไม่ พรรคชาติไทยพัฒนาเห็นด้วยหรือไม่ พรรคชาติพัฒนากล้าเห็นด้วยหรือไม่
เพราะทั้งหมดคือการปะทะในทางความคิดทางการเมือง