เอาแล้ว! ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก งานเข้า ตำรวจ สภ.บ่อเกลือ จ่อออกหมายเรียกสอบปม รีสอร์ตดังรุกป่าสงวน หลังปรากฏภาพโผล่รีวิวที่พักที่ทำผิดกฎหมาย
จากกรณีการตรวจยึดรีสอร์ตไร่กำแพงดาว starwall sapan ในแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต สะปัน-บ่อเกลือ แยกห้วยหมีห้วยโทน บ้านนาโป่ง ม.1 ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ จ.น่าน หลังฝ่าฝืนประกาศ เป็นพื้นที่ถูกตรวจยึดดำเนินคดีอาญาและยึดทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.2565 เนื่องจากได้ก่อสร้างบ้านพักบริการนักท่องเที่ยว จำนวน 12 หลัง รุกเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยภูคาและป่าผาแดง เนื้อที่ 3 ไร่กว่า อ่านข่าว : บุกยึด รีสอร์ตหรู สะปัน-บ่อเกลือ รุกป่า อ้างดารา-ใหญ่ระดับประเทศถือหุ้น
ล่าสุดวันที่ 10 ธ.ค.2565 นายนพดล เตชะยศ หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้น่านที่ 7 อำเภอบ่อเกลือ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่รีสอร์ตดังกล่าวทางป่าไม้ได้ติดป้ายประกาศหลังตรวจยึด แต่ได้มีการทำลายป้าย เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2565 ก็ได้มาทำการติดป้ายอีกครั้ง แต่ก็มีคนนำเอาผ้าห่มมาปิดไว้ ทั้งนี้ ในส่วนของ จ.น่าน หลายหน่วยงานยังมีการปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า รวมทั้งตรวจยึดสิ่งปลูกสร้าง และยึดพื้นที่ที่มีการบุกรุก เพื่อจะได้ฟื้นฟูปลูกป่า
นายนพดล กล่าวต่อว่า โดยเร็ว ๆ นี้จะมีการเปิดปฏิบัติการอีกครั้ง เพื่อทำการตรวจยึดพื้นที่ที่มีบุคคลมีชื่อเสียงอยู่เบื้องหลัง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากกลุ่มคนพวกนี้ใช้ช่องทางทางกฎหมายในการเอาตัวรอด หรือให้บุคคลอื่นถือครองแทน
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผบก.ภ.จว.น่าน กล่าวว่า จากกรณีมีภาพที่ใช้ในการโฆษณาว่ามีดาราสาวชื่อดัง ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ได้ทำการรีวิวที่พักที่ทำผิดกฎหมายดังกล่าว ได้ให้พนักงานสอบสวน สภ.บ่อเกลือ ออกหมายเรียกให้ดาราสาวชี้แจงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการรุกพื้นที่ป่าสงวนดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้ อยู่ในขั้นตอนของการขยายผลเพื่อหาความเชื่อมโยงไปยังกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังเพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
ขณะที่ นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า จ.น่าน ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีที่พักรีสอร์ตที่หมู่บ้านสะปัน อ.บ่อเกลือ และที่ ต.สกาด อ.ปัว หลังจากมีกรณีร้องเรียนทั้งเรื่องเต็นท์ที่พักขึ้นรา และกาแฟแพงมาตั้งแต่ปีที่แล้ว มีการประชุมหามาตรการและวางแผนตรวจสอบติดตามเป็นระยะ ทั้งเรื่องการบุกรุกลำน้ำ บุกรุกที่ดินพื้นที่ป่าสงวนฯ พื้นที่สาธารณะ
นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า การไม่ได้รับอนุญาตปลูกสิ่งก่อสร้าง ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร มาตรการเรื่องขยะและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีกฎหมายหลายฉบับมาประกอบเพื่อจัดระเบียบให้ถูกต้อง ทั้งในเชิงการป้องกันและปราบปราม และเชิงการพัฒนาพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่นชุมชน โดยได้สั่งการให้นายอำเภอทั้ง 2 พื้นที่ เร่งรัดผู้ประกอบการให้มาขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายในวันที่ 30 ธ.ค.นี้
นายวิบูลย์ กล่าวอีกว่า ส่วนบางรายยังอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข ได้ผ่อนผันให้เปิดดำเนินกิจการได้ไปก่อน เพื่อไม่ให้กระทบด้านการท่องเที่ยว แต่ก็ติดตามตรวจสอบต่อเนื่องเพื่อเร่งรัดแก้ไขให้ถูกต้องและมาขึ้นทะเบียน ส่วนที่กระทำความผิดชัดเจนก็มีการตรวจยึดและส่งฟ้องดำเนินคดี ส่วนกรณีนักธุรกิจที่มาลงทุนในพื้นที่ พบว่า ส่วนหนึ่งมาจากการซื้อขายที่ดินที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากทั้งผู้ขายและผู้ซื้อไม่มีความรู้ความเข้าใจ และไม่รอบคอบเรื่องเอกสารสิทธิ์ การใช้ประโยชน์พื้นที่ และบางพื้นที่มีกฎหมายห้ามชัดเจน