‘จุรินทร์’ ลั่น ปชป.ยึดมั่นซื่อสัตย์-สุจริต ชวนขจัดคอร์รัปชั่น ต้นเหตุปฏิวัติ เป็นภัยต่อระบอบประชาธิปไตยของประเทศ
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 9 ธ.ค. 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกิจกรรม “ฟัง-คิด-ทำ” ที่จัดโดยทีมยุทธศาสตร์ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ที่บริเวณลานกิจกรรมสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี และเนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล จึงมีการเสวนา “ถึงเวลาหยุดคนโกง หยุดงบประมาณรั่วไหล”
นายจุรินทร์ กล่าวว่า การทุจริตคอรัปชั่นไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือเป็นปัญหาเฉพาะสังคมใดสังคมหนึ่ง แต่เป็นปัญหาสากลที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ หลายประเทศ ในหลายภูมิภาคของโลก และประเทศไทยของเราเป็นประเทศหนึ่งที่ยังมีปัญหาทุจริตคอรัปชั่นอยู่
นายจุรินทร์ ได้อ่านความเห็นส่วนหนึ่งจากผู้เข้าร่วมกิจกรรม และพี่น้องชาวกรุงเทพฯ บางส่วน ที่ผ่านมาร่วมกิจกรรม ที่ได้สะท้อนผ่าน “โพสต์อิท” และแปะไว้ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้ได้เห็นว่าสังคมไทยก็ได้สะท้อนความคิดเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นไว้อย่างน่าสนใจ อาทิ เราควรทำแพลตฟอร์มกลาง สำหรับรวบรวมข้อมูลการร้องเรียนเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นเพื่อให้ผู้มีหน้าที่ได้แก้ไขด้วยเทคโนโลยีระบบดิจิทัล
นายจุรินทร์ กล่าวว่า การคอร์รัปชั่นมีวิวัฒนาการตั้งแต่ยุคแรกเป็นการรวบอำนาจและเป็นการให้สัมปทาน ต่อมาในบางยุคก็เป็นการทุจริตเชิงนโยบาย วันนี้ประชาชนกำลังรู้สึกว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในหลุมดำของปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น การที่ประเทศไม่สามารถพัฒนาไปสู่ความมั่งคั่งและมีรายได้สูงได้ ก็เพราะปัญหาคอร์รัปชั่น หรือแม้แต่ความเห็นที่บอกว่า คอรัปชั่นทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม เกิดปัญหายาเสพติด รวมไปจนถึงการซื้อขายตำแหน่ง และปัญหาอื่นๆ ที่ตามมาอีกมาก
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า สิ่งเหล่านี้ได้สะท้อนความเห็นของพี่น้องประชาชนส่วนหนึ่ง แม้จะไม่ทั้งหมด แต่พรรคประชาธิปัตย์ต้องรับฟัง รวมทั้งผู้ถืออำนาจรัฐ และผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องพร้อมที่จะรับฟัง เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาสากล สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคการเมืองพรรคหนึ่งของประเทศที่ดำรงชนมาอย่างยาวนาน 76 ปีและกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 77 พวกเราเห็นความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น และความซื่อสัตย์สุจริตถือเป็นอุดมการณ์สำคัญ 1 ใน 10 ข้อ
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า นับเนื่องมาตั้งแต่มีการก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ขึ้น นั่นก็คืออุดมการณ์ที่ประกาศว่า “ประชาธิปัตย์ จะดำเนินการเมืองด้วยวิถีบริสุทธิ์ และประชาธิปัตย์จะดำเนินการทางการเมืองบนพื้นฐานของความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประชาชน” อุดมการณ์นี้ พรรคได้ยึดมั่นมาโดยตลอดระยะเวลา 76 ปี และจะต้องยึดมั่นต่อๆ ไป ไม่มีวันเสื่อมคลาย โดยเฉพาะในยุคนี้
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ต้องตัดสินใจในการเข้าร่วมรัฐบาล เราจึงยื่นเงื่อนไข 3 ข้อ นอกจากต้องรับนโยบายประกันรายได้ของประชาธิปัตย์ไปเป็นนโยบายรัฐบาลแล้ว จะต้องยอมรับเงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นด้วย และอีกข้อหนึ่งก็คือรัฐบาลต้องดำเนินการบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเงื่อนไขสำคัญ และเป็นสิ่งที่ประชาธิปัตย์ยึดมั่นเสมอมา
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลาที่นับเนื่องมาตั้งแต่การที่ประชาธิปัตย์มีหัวหน้าพรรคมาแล้ว 7 คน มาจนถึงตนในวันนี้ ไม่มีใครมีปัญหาเรื่องความไม่ซื่อสัตย์สุจริต เพราะนี่คือสิ่งที่เรายึดมั่น ยึดถือตลอดมาทั้งอุดมการณ์และวิถีปฏิบัติ เพราะฉะนั้นพรรคการเมืองที่ชื่อ “ประชาธิปัตย์” จึงถือว่าเราต้องทำหน้าที่พรรคการเมืองในฐานะที่เราเป็นองคาพยพส่วนหนึ่งของสังคมไทย
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า สาเหตุของการทุจริตคอร์รัปชั่นมีที่มาจากการสมคบคิด และสมคบทำระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพราะถ้าไม่สมคบคิด ไม่สมคบทำ การคอร์รัปชั่นจะเกิดขึ้นไม่ได้ ดังนั้นการคอร์รัปชั่นจึงปรบมือข้างเดียวไม่ดัง และต้องปรบมือร่วมกันระหว่างผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่นและคอร์รัปชั่นก็มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่การคอร์รัปชั่นเงินงบประมาณแผ่นดินปกติ มาจนถึงบางยุคเกิดการแปรรูปเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย และกลายมาเป็นการคอร์รัปชั่นรูปแบบใหม่ที่ประเทศไทยเผชิญตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนมีการดำเนินคดีเข้าคุกเข้าตารางกันเป็นจำนวนมาก
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า สิ่งนี้จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งการจะทำให้เรื่องนี้บรรลุผลสำเร็จได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่งโดยลำพังนั้นเป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จได้ และเมื่อมองลึกลงไปที่สำคัญอีกประการคือ การทุจริตคอร์รัปชั่นไม่ได้เป็นภัยเฉพาะแต่กับเงินงบประมาณแผ่นดิน และผลประโยชน์ของประชาชนเท่านั้น แต่ยังเป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ในเรื่องการจัดลำดับความน่าเชื่อถือของประเทศด้วย
“ที่สำคัญซึ่งต้องขีดเส้นใต้ คือ เป็นภัยต่อระบอบประชาธิปไตยของประเทศ เพราะถ้าย้อนกลับไปดูในอดีตจะเห็นได้ว่า การปฏิวัติยึดอำนาจหลายครั้งจะมีการอ้างเหตุมาจากการทุจริตคอร์รัปชั่นด้วย ดังนั้นคอร์รัปชั่นจึงไม่ได้เป็นภัยเฉพาะเงินงบประมาณแผ่นดินเท่านั้น แต่ยังเป็นภัยต่อระบอบประชาธิปไตยของประเทศด้วย”
“ผมขอเรียกร้องให้ทุกคนช่วยกันขจัดภัยนี้ให้หมดสิ้นไป อย่าให้การทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเครื่องมือในการกวักมือเรียกวงจรอุบาทว์กลับมาสู่ประเทศไทยของเราอีก และพรรคประชาธิปัตย์ ก็พร้อมที่จะร่วมมือกับท่านทั้งหลาย เพื่อเดินหน้าไปสู่การต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นทุกรูปแบบ และพร้อมที่จะเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่ในฐานะพรรคการเมืองที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย เป็นส่วนหนึ่งของประเทศ ที่ต้องเดินหน้าไปสู่การยึดมั่นในหลักการของความซื่อสัตย์สุจริต”
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ขอบคุณทุกฝ่ายด้วยความจริงใจที่มาร่วมมือกันแสดงความเห็นเพื่อให้เดินหน้าไปสู่เป้าหมายของการขจัดการทุจริตคอรัปชั่นให้หมดจากประเทศไทยของเราต่อไป และอย่างน้อยได้มาร่วมกันกระตุ้นเตือนสำนึกของทุกฝ่ายเนื่องในวันต่อต้านการทุจริตสากลในวันนี้