นอท กองสลากพลัส ไลฟ์สดฟาดกลับ สันธนะ ลั่นอย่าสำคัญตัวผิด เลิกพาดพิงได้แล้ว ยืนยันไม่ได้กลัว ทำตามกฎหมายมาโดยตลอด แจงเอกสารเช็ค 159 ล้านบาท
วันที่ 9 ธ.ค. 65 นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือนอท กองสลากพลัส ไลฟ์สดโต้กลับ หลังจาก นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กรณีการจ่ายภาษี ยืนยันว่าที่นำเอกสารมาโชว์ ไม่ใช่เพราะ สันธนะ ตรวจสอบ แต่ทำแบบนี้ตามกฎหมายมาตั้งนานแล้ว อย่าสำคัญตัวเองผิด เพราะคุณไม่มีอำนาจไปตรวจสอบใครได้แม้แต่คนเดียว
นอท กองสลากพลัส กล่าวว่า ขอย้ำอีกครั้งเช็ค 159 ล้านบาท ที่นำมาโชว์เป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องการเอามาให้ลูกค้าดูว่าเราจ่ายภาษีให้เขา และเสียภาษีอย่างถูกต้องในงวดหน้า จะเก็บภาษีลูกค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ไม่เกี่ยวกับคนอย่าง สันธนะ แต่อย่างน้อยการจ่ายเช็ค 159 ล้านบาท และของเดือนนี้อีกกว่า 30 ล้านบาท การที่จ่ายภาษีปีนึง 200 กว่าล้าน เพราะทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ แล้ว สันธนะ ทำอะไรให้ประเทศชาติบ้าง
ส่วนประเด็น ที่เขาบอกว่ามาตรวจสอบในฐานะเป็นพลเมืองร้าย อยากตอบไปว่าทำไมต้องยกตนข่มคนอื่น ทำไมชอบเอาความหลัง เอาอดีตของคนอื่นมาพูด ถ้าเขาปรับปรุงตัวแก้ไขมันควรจะผ่านไปได้แล้ว ย้ำอีกครั้งคุณไม่มีสิทธิมาตรวจสอบเราได้เอง ต้องทำตามกระบวนการ คือนำไปให้ตำรวจ ไม่ใช้หอบเอกสารเข้ามาตรวจสอบเอง เดี๋ยวเรื่องถึงศาลแล้วเรื่องจบก็คงรู้เอง ตอนนี้อย่าปากกล้าขาสั่น แล้วก็เลิกออกมากล่าวพาดพิงตนได้แล้ว
นอท กองสลากพลัส กล่าวต่อว่า กรณีที่ยกแบริเออร์ไปให้ สน.ทองหล่อ ทำในฐานะบริษัท เพราะตนอาศัยอยู่แถวทองหล่อ ระหว่างนั่งรถไปทำงาน พบว่าสิ่งนี้ขาดแคลน และควรจะดีกว่านี้ถ้ามีอุปกรณ์อย่างนี้มาสนับสนุน และทางทองหล่อก็ขอมา มันไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง และการบริจาคให้ทางราชการ สามารถนำไปหักภาษีได้ตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นการช่วยสังคม เพื่อสาธารณะประโยชน์ และเรื่องการมอบแบริเออร์เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร กับสำนวนคดีมันคนละเรื่องกัน เพราะฉะนั้นอย่ามาบอกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในสำนวนคดี
กรณี 2 หมายเรียก ไม่สามารถเอามาออกได้ เพราะเป็นหลักฐานทางคดี ที่ สันธนะ บอกว่าไม่รับทราบข้อกล่าวหาแล้วไปทำไม วันนั้นบอกว่าตนลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเฉย ๆ เลยเอาให้ดูว่าลงบันทึกประจำวันเพื่อดำเนินคดี การที่คุณเขาไปเพราะไปรับทราบข้อกล่าวหาตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนจะต่อสู้หรือปฏิเสธ ว่ากันอีกเรื่องนึง
ส่วนเรื่องของข้อมูลนั้น หมายถึงข้อมูลสเตทเม้นของบริษัทตน มันแค่งบการเงิน การที่จะเอาผิดได้ ต้องดูบัญชีรายรับรายจ่ายว่ามันตรงกับงบการเงินมั้ย แจ้งสรรพากรตรงมั้ย มีเลี่ยงภาษีหรือไม่ เอกสารที่ สันธนะ ถืออยู่นั้นเล่มสีฟ้าคือเอกสารที่เปิดเผยได้ แต่ไม่สามารถตรวจสอบเอาผิดได้
ตนเปิดบริษัทมา 2 ปี ยอดขาย 1.8 หมื่นล้านบาท มีลูกน้อง 400 กว่าคน ตนศึกษารายละเอียดต่างๆมาก่อนอยู่แล้ว ทั้งกฎหมาย บัญชี ภาษี การตลาด การขาย รวมทั้งศึกษาการใช้โซเชียลมีเดีย แม้กระทั่งการเขียนโปรแกรมก็ศึกษา และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ปีที่แล้วจ่ายภาษีกว่า 2.4 ล้านบาท กลางปีจ่ายกว่า 9 ล้าน ตนจ่ายภาษีแล้วก่อนที่ สันธนะ จะมายุ่ง ยืนยันไม่ได้กลัว ตนทำถูกกฎหมาย และถูกสอบสวน มาโดยตลอด