นฤมล ห่วงใยคุณภาพชีวิตผู้พิการเข้าสู่ระบบงานต่ำ หนุนเอกชนใช้ ม.35 สร้างอาชีพมั่นคงแทนส่งเงินเข้ากองทุน พปชร.เร่งตั้งกองทุนเพื่อสังคม เครื่องมือแก้ยากจน
วันที่ 7 ธ.ค.2565 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อดีตรมช.แรงงาน เปิดเผยว่า ได้ติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์การจ้างงานของกลุ่มผู้พิการของสถานประกอบการที่ผ่านมา ยังพบว่า การจ้างงานมีจำนวนเพิ่มขึ้นไม่มาก เนื่องจากสถานประกอบการส่วนใหญ่ยังดำเนินตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต พ.ศ.2550 ยังเน้นการนำเงินส่งเข้ากองทุนเป็นไปตามมาตรา 34 มากกว่าการจ้างคนพิการเข้าทำงานตามมาตรา 33 และมาตรา 35
เนื่องจากความไม่พร้อมของสถานประกอบการ ในการจัดหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้ผู้พิการ ปัญหาการเดินทางของผู้พิการที่ยังเป็นอุปสรรค และด้านทักษะ การศึกษายังไม่เข้าเกณฑ์ของสถานประกอบการ ส่งผลให้ปัจจุบันมีอัตราการจ้างงานเข้าสู่ระบบงานมีเพียง 40 % ซึ่งยังไม่สอดคล้องกับจำนวนผู้พิการที่มีอยู่ประมาณ 2 ล้านคนในประเทศไทย หากนับรวมจำนวนครอบครัวผู้พิการด้วยแล้ว ประมาณ 10 ล้านคน จะส่งผลให้เกิดผลกระทบในวงกว้างขึ้น
ดังนั้น ที่ผ่านมาได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้เกิดการจ้างงานผู้พิการเพิ่มขึ้น เพื่อให้ผู้พิการมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ และยังคงศักดิ์ศรีการดูแลตนเองได้อย่างมั่นคง ซึ่งการดำเนินงานของพรรค จะยังคงให้ความสำคัญในการผลักดันให้สถานประกอบการมีการสนับสนุนมูลนิธิ สมาคมต่างๆ เพื่อให้มีการจ้างผู้พิการ ทำงานด้านสาธารณะประโยชน์ หรือการส่งเสริมการประกอบอาชีพของตนเองได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ได้วางแนวทางการให้เกิดการส่งเสริมให้ผู้พิการเข้าสู่ระบบการจ้างงานตามมาตรา 35 ที่จะส่งเสริมการจ้างงานในด้านต่างๆ เช่นเดียวกับแนวทางการดำเนินงานของมูลนิธิพระมหาไถ่ เพื่อการพัฒนาคนพิการ
โดยนายมานพ เอี่ยมสอาด รองเลขาธิการมูลนิธิฯ เสนอแนวทางการช่วยเหลือและเพิ่มโอกาสการว่าจ้างผู้พิการเข้าทำงานในระบบมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มเครื่องมือ เพื่อเปิดรับการลงทะเบียนของผู้พิการทั่วประเทศ ผ่านแอพพลิเคชั่น NiNA1479 ซึ่งเป็น Super App เพื่อรวบรวมฐานข้อมูลของคนพิการที่มีอยู่ทั่วประเทศ เพื่อจัดสรรการทำงานของคนพิการเข้าสู่ระบบ ตามมาตรา 35 ที่ว่าด้วยการจัดให้สัมปทาน การจัดสถานที่ให้จำหน่ายสินค้าและบริการ การจัดจ้างเหมาช่วงงาน หรือบริการ จัดฝึกงาน จัดให้มีอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสถานประกอบการที่มีคนพิการทำงานอยู่ ให้มีล่ามภาษามือสำหรับพนักงานเป็นคนพิการหูหนวก และจัดให้มีความช่วยเหลืออื่นใด ให้คนพิการหรือผู้ดูแล
การส่งเสริมให้สถานประกอบการเข้าสู่ระบบการจ้างงานผ่านมาตรา 35 จะเป็นการแก้ไขปัญหาดูแลผู้พิการทั่วประเทศ ซึ่งจะได้ผลประโยชน์ทั้งนายจ้าง และลูกจ้างมากยิ่งขึ้น ตามแนวทางการสร้างสังคมที่มีคุณภาพ และยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกกลุ่มเพื่อสู่เป้าหมาย “การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ อย่างยั่งยืน”
นอกจากนี้ ยังมีแนวทางของพรรคที่จะเร่งผลักดันการจัดตั้ง กองทุนเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise (SE) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือแก้ไขปัญหาความยากจน ส่งเสริมการประกอบอาชีพของผู้พิการ และกลุ่มเปราะบาง ซึ่งรูปแบบการจัดตั้งกองทุนฯได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ในเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกลต. พร้อมสนับสนุนผลักดันให้เกิดการจัดตั้งกองทุน ผ่านกลไกตลาดทุนในอนาคต ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่จะลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม