อั๋นคำผกา ชี้ฝึกโหดร.ด. ภัยเงียบกล้ามเนื้อ อันตราย วอนกองทัพรับฟัง ให้พลเรือนร่วมตรวจสอบ เพื่อความโปร่งใส เหตุเห็นกันอยู่แก้ปัญหาไม่ได้
วันที่ 6 ธ.ค.2565 ข่าวจบ คนไม่จบ! วิเคราะห์เจาะลึก ถึงพริกถึงขิง จากมุมมอง “อั๋น ภูวนาทและ แขก คำผกา” กับ 3 วิพากษ์เผ็ดร้อน 3 ประเด็นฮอต หมูฟอร์มาลีน 25,000 กิโล กระจายร้านหมูกระทะ คนไทยตายผ่อนส่ง, ฝึกโหดเกิน! 23 นร.ร.ด. ไตวาย ทหารแจงแต่โป๊ะ เจอดราม่าถล่มซ้ำ, จะทำได้มั้ย! เพื่อไทยเปิด 10 นโยบาย ค่าแรง 600 บาท ป.ตรี 25,000 บาท โดยพิธีกรคืออั๋น-ภูวนาท คุนผลิน และคำผกา ลักขณา ปันวิชัย สำหรับเรื่องฝึกโหดนั้น มันเป็นภัยเงียบ และกองทัพควรให้หน่วยงานพลเรือนตรวจสอบ เพื่อความโปร่งใส และต้องยอมรับว่าแก้ปัญหาไม่ได้
คำผกาเผยว่าตนมีประสบการณ์ตรง เรื่องโรคกล้ามเนื้อ หลานตนต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ เขาปั่นจักรยานไปหลายสิบกิโลเมตร และความเป็นเด็กวัยรุ่นว่าควรจะจิบน้ำอย่างไร พอกลับมาบ้าน นอนหลับไป 1 คืนด้วยอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ตอนเช้าจิ้มขาทรุดไปเลย เพราะกล้ามเนื้อตรงขาหายไปเลย พอกล้ามเนื้อสลายแปลว่า ร่างกายรู้ มันจะผลิตเอนไซม์ มันจะเข้าไปในกระแสเลือด ทำให้เลือดเป็นกรด ค่าไตจึงสูง ถ้าไปหาหมอไม่ทัน ก็จะเกิดภาวะไตวาย และจะต้องฟอกไต
อย่างหลานตนอยู่บ้าน เห็นว่าลุกไม่ได้ ต้องพาไปโรงพยาบาล ต้องเอาน้ำเกลือไปล้าง 4 วัน จากค่าไตเกือบหมื่น ถ้าแตะ 2 หมื่นคือไตวาย จนมันค่อยๆ ลด ถึงออกจากโรงพยาบาล ตนเข้าใจเลยว่าพอเด็กไปฝึก นอนน้อย ขาดน้ำ มันเป็นโรคที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ตอนนั้นยังคิดว่าเขาสำออย ไม่อยากซ้อมหรือไม่ เพราะกล้ามเนื้อไม่ได้ลีบ เราจะรู้เมื่อวัดค่าเอนไซม์ในเลือด
อ่านข่าว ฝึกโหด! หาม รด.ปี 1 เข้า รพ. 17 คน ขาดน้ำรุนแรง ผงะต้องฟอกไต 6 คน
การขาดความเข้าใจเรื่องการสลายกล้ามเนื้อฉับพลันแบบนี้ มันมีแรงต้านกล้ามเนื้อสูงมาก พอเด็กปวดเมื่อย ก็เข้าใจว่าครูฝึกจะให้กินยาแก้ปวด และพัก ซึ่งไม่ช่วยอะไร เพราะค่าไตมันสูง และไม่มีใครรู้จักเรื่องนี้ แม้ว่าร่างกายจะรื้อฟื้น แต่ไปออกกำลังกายหนักๆ อีก ค่าเอนไซม์ก็จะพุ่งอีก เพราะคุณไม่กายภาพ ฟื้นฟูให้เต็มร้อย สุขภาพยังไม่แข็งแรง เราก็ไม่แน่ใจว่าครูฝึกถามว่ากินยาอะไรบ้าง ซึ่งจะทำให้คนกล้ามเนื้อสลายมากกว่าคนอื่น
เรื่องแบบนี้ถ้าไม่เกิดกับคนในครอบครัวเราก็ไม่รู้ แต่ต้องกินน้ำให้มากพอ และต้องพักผ่อน แต่หากเกินกำลัง ก็มีคนเสียชีวิตมาแล้ว โดยเฉพาะการวิ่งมาราธอน นอกจากภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง ฮีทสโตรก เพราะคนไม่รู้กัน เขาเรียกว่าภัยเงียบ
ทั้งนี้เพราะความมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อาการเหมือนเป็นตะคริว ก็เข้าใจว่าครูฝึกไม่รู้ อั๋นเผยว่าเจ็บเป็นจำนวนมาก ก็ควรพิจารณาตัวเอง อย่าไปอีโก้ว่า ทำไมเราถึงไม่เป็นอะไร อย่าเอามาตรฐานนี้มาใช้ มันทำร้ายคนอื่น ทุกๆ คนมีพ่อมีแม่ ฝึกตามระดับที่สมควร ทหารทุกคนไม่จำเป็นต้องแข็งแรงระดับนี้เสมอไป ถ้าจะฝึกระดับนี้ เป็นเฉพาะกลุ่มหรือไม่ เช่น เขาอยากฝึกเพื่อภารกิจพิเศษ ก็ไปเคี่ยวเข็ญไป มันเกินกว่าเหตุจริงๆ
ตอนเห็นเรื่องนี้ ใจหายมาก คำผกาเผยว่าอยากฝากถึงศูนย์ฝึก เด็กเป็นแบบนี้หลายคน อย่าเก็บไว้ ต้องส่งโรงพยาบาล เพราะไม่มีอุปกรณ์ตรวจเลือด ซึ่งบางคนไม่รู้ จะกินยาแก้ปวด กับยาคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งจะยิ่งทำให้กล้ามเนื้อสลายมากขึ้น ตรงนี้จะได้ฝากบอกต่อกันไว้ ต้องระวังไว้
ในประเด็นเหล่านี้ ทหารทุกระดับ ต้องเข้าใจว่าจะถูกด่ามากมายสารพัด ต้องใจกว้างพอจะรับมันได้ ว่าสมควรโดน ควรจะได้เรียนรู้ในสิ่งนี้ อย่างหนึ่งที่จะป้องกันได้ คือ การทำให้ทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทหารเกณฑ์ ทหารโกง ฝึกร.ด. กองทัพบอกจะตรวจสอบ แต่ควรเปิดให้ภาคประชาชนพลเรือน เป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบด้วย อย่าตรวจสอบกันเอง สรุปกันเอง แล้วจบ
เพราะเราควรยอมรับว่า ยังแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ตนไม่ได้บอกว่าเอาพลเรือนไปช่วยมันแก้ปัญหาได้ แต่มันลดการเสียดทานว่าแฟร์ มาช่วยกันแก้ แต่ตอนนี้เราไม่รู้ว่าทำอะไรกันอยู่ แค่นั้นเอง ขอให้เปิดตัวเองโปร่งใสตรวจสอบได้ อย่าไปตรวจสอบกันเอง มันประหลาดอยู่แล้ว
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผู้ชายผู้หญิง แต่เพราะเงื่อนไขสภาพของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่คราวนี้สลายไป 23 คน ถือว่าเยอะ ตอนเห็นข่าวตกใจมาก และเด็กจะกลัวกับการออกกำลังกายหนักๆ ไปเลย พื้นฐานแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่ได้ออกกำลังกายนานๆ ร่างกายก็ไม่ไหว มันมีเวลาที่ร่างกายคุยกับตัวเองก่อน