สาวแชร์ประสบการณ์ โดนรูมเมททำร้ายนาน 6 เดือน ยอมเพราะรู้สึกผิด ทั้งโดนตี ทั้งโดนไถเงิน ทำชาวเน็ตวิจารณ์เสียงแตกเป็น 2 ฝ่าย
กำลังเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ออกมาเล่าประสบการณ์การโดนทำร้ายร่างกายจากเพื่อนร่วมห้องของเธอ โดยหญิงสาวรายนี้ระบุว่า “สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องของเรากับรูมเมทที่อยู่ด้วยกันมา6เดือนค่ะ แต่ตอนนี้เลิกคบไปแล้วเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้หลายๆคนไม่เป็นเหยื่อความรุนแรงและออกมาจากมันให้เร็วที่สุดค่ะ”
เธอเริ่มรู้จักกับเพื่อนร่วมห้องคนนี้ในช่วงเดือนตุลาปี64 ผ่านสเปซในทวิตเตอร์ เป็นช่วงที่เธอกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯพอดี อีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่ก็ขึ้นมาเที่ยวและอยู่กับเธอราว 2 เดือน หลังจากนั้นเธอก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากชวนให้มาหารค่าห้องด้วยกัน ก่อนหน้านั้นก็มีปัญหากันมาตลอด แต่เธอยืนยันว่ามันอยู่ได้เดี๋ยวพยายามปรับเอง อีกฝ่ายเลยโอนเกรดมาเรียนที่เดียวกัน
เธอเล่าว่า “เขาเริ่มโมโหเราเวลาที่เราทำตัวเสร่อ เช่น เราทำของตก เราพูดจาไม่คิด ตอบห้วนๆ หรือขึ้นเสียงใส่ เราก็แก้ไม่ได้สักที จนเขาเริ่มตบหน้าตัวเองตอนแรกแล้วพูดออกมาว่า ‘กูไม่รู้จะทำยังไงกับมึงแล้ว’ ทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้าตบหน้าตัวเองเพราะว่าโมโหเรา เราบอกว่าอย่าตบตัวเอง ตบหนู”
และเมื่อมีการทำร้ายร่างกายกันครั้งแรก ก็มีครั้งต่อไปตามมา และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดจะมีการใช้เตารีดทำร้ายกัน และสาเหตุที่ยังแยกกันไม่ได้ก็เพราะติดพันกันเรื่องเงินต่างๆ จนปัญหามันเริ่มหนักขึ้น รูมเมทบอกเธอว่ากลับไปเป็นโรคซึมเศร้าเพราะตัวเธอแก้นิสัยไม่ได้ ตอนแรกเธอยอมรับผิดเลยออกค่าหมอให้เดือนละ11,000 บาท
เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปหาจริงไหม แต่ก็ยอมจ่ายให้ถึง 3 เดือน “ช่วงเดือนแรก เราก็โดนเหมือนเดิมตลอด คือโดนตบหน้าบ้าง ทะเลาะกันก็ต้องเจ็บตัว ช่วงเดือนที่2-3 โดนน้อยลง เขาตั้งกฎว่าทุกครั้งที่ทะเลาะกันเราจะต้องเสียค่าปรับเพราะเถือว่าเราไม่ช่วยให้เค้าหาย ถ้าเค้าตบเรา เราต้องจ่าย1000ให้เค้า ถ้าทะเลาะกันก่อนกินข้าว ก่อนนอน 300”
แถมยังทำให้เธอติดหนี้ตัวเองหลักแสน เพราะกล่าวหาว่าเธอไปทำของแบรนด์เนมอีกฝ่ายเสียหาย เธอก็ยังทั้งโดนทำร้าย ทั้งโดนไถเงินหลายหมื่นจากข้ออ้างนู่นนี่เรื่อยๆ จนวันหนึ่งอีกฝ่ายสาดเหล้าใส่เธอ ทำให้เธอทนไม่ไหวอีกต่อไป ตัดสินใจจะไปคุยกับแม่ อีกฝ่ายถึงขนาดยึดโทรศัพท์ไปตอนนอนเพราะกลัวเธอหนี สุดท้ายเรื่องก็เหมือนจะจบไปเมื่อรูมเมทของเธอย้ายออกไปทันที โดยไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้เธอต้องรับผิดชอบค่าห้องคนเดียวแบบกระทันหัน
โพสต์นี้กลายเป็นไวรัล มีคนเข้ามารีทวีตกว่า 4.8 หมื่นครั้ง และแสดงความคิดเห็นนับพันรายการ ทำให้เกิดความเห็นเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายที่เห็นใจเข้าของทวีต กับฝ่ายที่ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องยอมโดนขนาดนั้น ใช่รูมเมทแน่เหรอ? แต่เธอก็ยืนยันว่าไม่มีอะไรมากกว่าความเป็นพี่น้อง และที่ยอมทนอยู่ก็เพราะเชื่อว่าตนเองเป็นสาเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายมีอาการแบบนี้