จับแล้ว4 แก๊ง7คนร้าย บุกบ้านตายาย ยกตู้เซฟกวาดนับล้าน ที่แท้ฝีมือหลาน 1ในคนร้ายให้การซัดทอด หลานชายผู้เสียหายวางแผนมาไว้แล้ว 2 เดือน หวังเอาชีวิตโชคดีไม่มีใครอยู่
จากกรณีคนร้าย 7 คน บุกเข้าไปที่บ้านสองตายายคือนายเฉลียว อายุ 76 ปี และนางปราณี อายุ 73 ปี ในพื้นที่หมู่ 3 ต.บ้านราม อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช แล้วปล้นยกเอาตู้เซฟ ภายในมีเงินสดจำนวนหนึ่งทองคำรูปพรรณน้ำหนักประมาณเกือบ 30 บาท ปืนพกสั้น 2 กระบอก ขนาด .357 1 กระบอก ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก รวมมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ก.ย.2565 ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 2 ธ.ค.2565 พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลังตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และชุดสืบสวน ภ.8 สามารถตามจับกุม นายวีรยุทธ หรือโก้ อายุ 38 ปี หนึ่งในแก๊งคนร้ายเอาไว้ได้ และนำตัวไปชี้จุดที่ตู้เซฟไปทิ้งในบ่อทราย ต.ควนพัง อร่อนพิบูลย์ ห่างจากจุดเกิดเหตุไปราว 40 กม. ท่ามกล่างความสนใจจากชาวบ้านในพื้นที่จำนวนมาก
โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้รถตักยกตูเซฟขึ้นมาจากน้ำ เนื่องจากมีน้ำหนักถึง 400 กิโลกรัม พบตู้เซฟอยู่ในสภาพถูกเจาะพังยับเยิน ก่อนที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะเข้าเก็บหลักฐานอย่างละเอียด หลังจากนั้นได้เคลื่อนย้ายมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.หัวไทร ต่อมาเจ้าหน้าที่จับตัวผู้ต้องหาอีก 3 รายคือนายภูริวัฒน์ หรือเจมส์ อายุ 30 ปี และนายรัฐมนูญ อายุ 29 ปี และนายชัยรัตน์ อายุ 56 ปี ทั้งหมดถูกคุมตัวอยู่ในห้องควบคุม โดยนายชัยรัตน์สารภาพว่า ได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินสดมาเพียง 8 พันบาทเท่านั้น
และยังบอกด้วยว่าโชคดีที่ไม่ใครอยู่บ้านขณะเกิดเหตุเนื่องจากมีผู้ร่วมก่อเหตุบางคนบอกว่า หากพบว่ามีคนอยู่ในบ้านจะต้องจับมัดและอาจต้องลงมือเอาชีวิตเพื่อปิดปาก ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีในขณะนี้และถูกออกหมายจับในคดีเดียวกันนี้คือนายธวัชชัย อายุ 38 ปี นายปัญญา อายุ 41 ปี และนายธวัชชัย อายุ 39 ปี รวมผู้ต้องหาในคดีนี้ทั้งหมด 7 ราย
นายเฉลียว และนางปราณี 2ตายาย ผู้เสียหาย ระบุว่า ดีใจที่เจ้าหน้าที่จับกุม 4 คนร้ายไว้ได้แล้ว พร้อมทั้งยึดทรัพย์สินมาได้ส่วนหนึ่งแต่ที่เสียใจคือหลานชายแท้ๆกลายเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ชักพาคนร้ายมาก่อเหตุคือนายธวัชชัย อายุ 38 ปี ทั้งๆที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกัน โดยก่อนเกิดเหตุไม่นานยังมารับไปร่วมงานศพเพื่อนบ้าน และหลังจากเกิดเหตุแล้วยังวนเวียนมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งความแตก
นายวีรยุทธ หรือโก้ ให้การว่า นายธวัชชัย เป็นผู้วางแผนและมาชักชวน โดยวางแผนล่วงหน้าไว้ 2 เดือน แต่มาชวนตนเองประมาณ 7 วันก่อนลงมือ ส่วนตู้เซฟหลังจากได้ไปแล้วมี 4 คนได้ช่วยกันตัดเปิดและเอาทรัพย์สินในตู้ออกมาแบ่งกันมีทองหลายเส้น พระเลี่ยมทองหลายองค์ ปืน เงินสด สำหรับพระเลี่ยมทองและทองรูปพรรณบางส่วนนั้นได้นำไปฝากญาติไว้ ทราบว่าขณะนี้เจ้าหน้ากำลังไปตรวจยึด ส่วนสาเหตุนายธวัชชัยบอกว่าป้ามีฐานะดีป้ารวย แต่ไม่เคยให้เงินให้ใช้ จึงชักชวนกันไปก่อเหตุ
พล.ต.ต.สมชาย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจนับแต่หลังจากเกิดเหตุได้เร่งสืบสวนอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาจากทีมสืบสวนทั้งจากพื้นที่จังหวัด ภาค 8 และกองปราบ ร่วมกันติดตามมาโดยตลอดจนกระทั่งนำไปสู่การจับกุม ซึ่งอาจไม่ได้สื่อสารกับผู้เสียหายในบางประเด็นจนก่อให้เกิดความเข้าใจไม่ตรงกัน ส่วนของกลางที่ยึดมาได้แล้วในขณะนี้คืออาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นลูกซองสั้น และอาวุธปืนของผู้เสียหาย 1 กระบอก อีก 1 กระบอกกำลังติดตาม
ส่วนทองคำนั้นทราบว่าบางส่วนได้ถูกนำไปจำนำในร้านทองแห่งหนึ่งในนครศรีธรรมราชอยู่ในระหว่างติดตามเช่นกันสำหรับข้อหาทั้ง 7 รายในขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบตามพฤติการณ์คือร่วมกันลักทรัพย์ บุกรุกเคหะสถาน และร่วมกันในความผิด พรบ.อาวุธปืน