จุดเริ่มต้นวิถีอากาเซ่ ตั้ม วราวุธ รับคลั่งรัก แจ็คสัน หวัง เผยเหตุผลที่ชอบ ขอตามดูใกล้ชิดติดขอบเวที
มาเมืองไทยครั้งนี้สร้างความฮือฮาไปทั้งประเทศเลยก็ว่าได้ สำหรับศิลปินหนุ่มระดับโลก แจ็คสัน หวัง หรือ แจ็คสัน GOT7 รวมถึงนักร้องนักแสดงหนุ่ม ตั้ม วราวุธ ที่ซื้อบัตรเข้าไปชมคอนเสิร์ตติดขอบเวที ล่าสุดได้มาเปิดใจเรื่องนี้ในรายการ โต๊ะหนูแหม่ม ช่องเวิร์คพอยท์ 23 กับพิธีกรตัวแม่ “หนูแหม่ม สุริวิภา” พร้อมทั้งอัพเดตเรื่องบ้านที่กำลังสร้างตอนนี้ใกล้เสร็จแล้ว
ได้ไปดูคอนเสิร์ตไหม? “ไปดูครับ ผมชอบมาก ผมถึงไปกับทุกโชว์จนทำให้ผมไม่มีคลิปไม่มีรูปเก็บกลับมาเพราะผมตั้งใจดูมาก ซึ่งบางวันแต่ละโชว์อาจจะไม่เหมือนกันจนทำให้เราต้องเก็บครบทั้งสามวัน อย่างบางวันพี่แจ็คเค้าจะถอดเสื้อ วันที่สองเค้าก็ไม่ได้ถอดมันทำให้เราต้องเก็บทุกวัน อย่างครั้งนี้ผมเสียดายมากที่ดูแค่วันเดียว”
ฟินขนาดไหน? “ฟินครับถึงขั้นผมซื้อบัตรราคา 5,500 ผมเริ่มเป็นแฟนคลับเค้าตั้งแต่ช่วงโควิด และปกติเวลาผมดูวงไอดอลเกาหลีคงจะจำหน้าใครไม่ค่อยได้ เพราะหน้าจะคล้ายกันหมด ในเรื่องการเต้นของเขามันก็จะเหมือนกันหมดเลย แต่ GOT7 เป็นวงเดียวที่ผมจำได้ เค้าจะเป็นวงไอดอลที่ท่าเดียวกันแต่ไลน์คนละแบบ เราก็เลยจำได้ง่ายเลยตามและดูคลิปเก่าๆ ตอนช่วงโควิด”
ทำไมถึงชอบ แจ็คสัน หวัง? “เค้าจะเป็นคนที่หล่อ แต่ไม่ค่อยห่วงหล่อสักเท่าไหร่ จะมีความตลกขี้อำขี้เล่น อย่างเล่นเกมก็ชอบเอาชนะ จริตตรงกันคล้ายกัน”
ชอบมากถึงขั้นไปรับที่สนามบิน? “ในช่วงนั้นที่เค้ามาผมพลาดไปหลายงาน อย่างมีงานที่เค้าจัดที่เราจะได้ไปเป็นปาร์ตี้ของเขาและมีการ์ดเชิญ ผมไม่ได้ไปผมติดถ่ายรายการ แล้วก็มีงานพี่เค้าเป็นพรีเซ็นเตอร์ติดต่อมาให้ผมไป ผมก็ไม่ได้ไปเพราะไม่ว่าง เพราะว่าติดงาน คือชีวิตผมที่จะได้เจอเขาไม่เป็นสนามบิน ไม่ก็ต้องเป็นคอนเสิร์ต”
เส้นทางการเป็นนักสู้ของเรา? “ของผมเป็นนักสู้อ่ะเริ่มจากดิน อยู่บ้านต่างจังหวัดที่เป็นดินสีแดง สู้มาตลอด แต่ผมรักการเอ็นเตอร์เทนชอบทำให้คนอื่นยิ้มชอบทำให้คนอื่นสนุก ซึ่งไม่คิดแต่แรกว่าเราจะต้องมาเป็นดารา มันเหมือนสู้ก็สู้ แต่สู้โดยไม่รู้ตัว สู้จากความรัก คือสู้แล้วเราสนุกไปกับมันด้วยจนในที่สุดทำให้เราได้เป็นเดอะสตาร์”
จากนักร้องสู่การเป็นพิธีกร? “ตอนแรกรู้สึกว่าทำไม่ได้เพราะเราเป็นคนพูดเหน่อซึ่งคนที่จะเป็นพิธีกรมันจะต้องพูดกลางได้ต้องไม่เหน่อ เพราะเดี๋ยวคนต่างจังหวัดจะมาว่าเอา หรือไม่ถ้าคนกรุงเทพฟังแล้วเค้าขัดหูมันก็ไม่น่าได้”
จุดเริ่มต้นเป็นพิธีกร? “เริ่มมาจากรายการ 4 โพดำ ที่กลายเป็นพิธีกรโดยไม่รู้ตัว และเราก็มาร้องเพลงทำโชว์เล่นละครสนุกสนานตลกเฮฮาซึ่งมันก็จะต้องมีการเปิดและการปิดรายการอันนี้เราก็ได้เรียนรู้จากตรงนั้น “พี่บอย ถกลเกียรติ” ก็เคี่ยวเข็ญ กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ก็โดนเยอะ ตอนนี้ก็เลยมีทั้งหมด 3 รายการแล้ว”
มีความสุขมากไหมกับการเป็นพิธีกร? “สนุกครับ ชอบครับ มีความสุขกับการเป็นพิธีกร ซึ่งก็มีทั้งรายการที่เรารู้สึกถนัดมากกับรายการที่เรายังไม่ค่อยถนัด ถ้ารายการที่เรายังไม่ถนัดก็ต้องทำการบ้านเยอะหน่อย เราก็ต้องหาจังหวะที่ต่อสู้กับสิ่งที่เราไม่ถนัด”
ไม่ถนัดแล้วทำทำไม? “เงินครับ เพราะผมเลือกไม่ได้ คือผมเป็นคนชอบลั่น บางรายการที่ค่อนข้างซีเรียสและเซ้นซิทีฟก็จะกังวลไปเอง กลายเป็นเกร็งกลัวจะผิดกลัวจะไม่ได้กลัวจะไม่ดี กลัวอะไรที่ออกไปแล้วมันจะกลายเป็นดราม่าผมก็ต้องขอโทษไว้ก่อน”
สร้างฐานะด้วยสองมือ? “ตอนนี้ก็กำลังสร้างบ้านอยู่ ก็ต้องขอบคุณตัวเอง ขอบคุณสัญชาตญาณตัวเอง ขอบคุณพ่อแม่ด้วยที่เลี้ยงให้เราเป็นแบบนี้ และเราก็สู้มาเป็นแบบนี้ มองย้อนไปผมไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ผมพลาด เพราะสิ่งที่ทำให้ผมพลาดทำให้ผมประสบความสำเร็จจนทุกวันนี้”