ศาลอุทธรณ์เกาหลีใต้ ยืนโทษคุก 9 ปี คนไทยนำเข้าไอซ์ 1.5 กิโลกรัม
นิวซิส รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ศาลอุทธรณ์เกาหลีใต้ พิพากษายืนให้นาย A (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี พลเมืองสัญชาติไทย ซึ่งเป็นผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย ได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 9 ปี ในการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น ฐานนำเมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) 1.5 กิโลกรัมจากประเทศไทยเข้ามาในเกาหลีใต้ หลังยกคำร้องของนาย A ซึ่งถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการลงโทษที่รุนแรงขึ้นของอาชญากรรมบางประเภท และฝ่าฝืนกฎหมายควบคุมยาเสพติด
นาย A ถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับคนรู้จักในประเทศไทย นำเมทแอมเฟตามีน 1.487 กิโลกรัม เข้ามาในเกาหลีใต้ เมื่อราวต้นเดือนธ.ค. 2564 โดยแบ่งใส่ถุงพลาสติก 6 ใบ และซุกซ่อนในพื้นรองเท้า จากนั้นนำเข้ามาในเกาหลีใต้ทางไปรษณีย์ด่วนระหว่างประเทศ
เมื่อพิจารณาว่าเมทแอมเฟตามีนที่นาย A นำเข้ามาในเกาหลีใต้คือ 0.03 กรัมต่อ 1 โดส จะมีปริมาณเพียงพอที่จะให้คนเสพพร้อมกันราว 49,500 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีรายงานว่า เมทแอมเฟตามีนล็อตดังกล่าวมีมูลค่า 148.75 ล้านวอน (ราว 3.9 ล้านบาท) เมื่อคำนวณโดยใช้ราคาขายส่ง 100,000 วอนต่อ 1 กรัม (ราว 2,600 บาท)
นอกจากนี้ นาย A ถูกกล่าวหาว่าเสพยาบ้า ซึ่งเป็นยาเสพติดสังเคราะห์ชนิดใหม่ในเกาหลีใต้ที่มีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีน เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 16 ธ.ค. 2564
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้นาย A ได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 9 ปี โดยระบุว่า “อาชญากรรมยาเสพติดไม่เพียงสร้างความเสียหายต่อร่างกายและจิตใจของบุคคล แต่ยังตรวจจับยาก มีความเสี่ยงที่จะกระทำความผิดซ้ำ และมีผลกระทบเชิงลบอย่างใหญ่หลวงต่อสังคมทั้งปวง”
แต่นาย A ไม่พอใจกับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นจึงยื่นอุทธรณ์
ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นอุทธรณ์ ฝั่งนาย A โต้แย้งว่า นาย A เป็นคนต่างด้าวโดยผิดกฎหมายและเดินทางออกนอกเกาหลีใต้กลับประเทศไทยหลังคดีดังกล่าว และโต้แย้งว่าบันทึกการสอบสวนผู้ต้องสงสัยของอัยการไม่สามารถยอมรับเป็นหลักฐานได้ตามมาตรา 314 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาของเกาหลีใต้ เนื่องจากนาย A ไม่สามารถปราฏตัวและเบิกความในศาลได้
หัวหน้าผู้พิพากษาแพ็ก ซึง-ย็อบ กองคดีอาชญากรรมที่ 1-2 ศาลอุทธรณ์แทจ็อน อ่านคำพิพากษาว่า “จากพฤติการณ์ต่างๆ มีเหตุผลที่จะสามารถถือได้ว่า บันทึกการสอบปากคำของอัยการแต่ละท่านที่จะฟ้องร้องนาย A ไม่สามารถยอมรับว่าเป็นหลักฐานได้ เนื่องจากนาย A ไม่ยินยอมที่จะใช้บันทึกการสอบปากคำของอัยการเป็นหลักฐาน และไม่สามารถถือได้ว่าเป็นไปตามข้อกำหนดตามมาตรา 314 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาของเกาหลีใต้
“อย่างไรก็ตาม นอกจากบันทึกการสอบปากคำของอัยการแต่ละท่านที่ไม่สามารถยอมรับว่าเป็นหลักฐานได้แล้ว ยังมีหลักฐานอื่นๆ ที่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงของการฟ้องร้องของอัยการ จึงไม่สามารถระบุได้ว่ามีการละเมิดกฎหมายที่กระทบคำพิพากษา
“แม้ว่าเมทแอมเฟตามีนที่นำเข้ามาในเกาหลีใต้จะมีปริมาณมาก และจำเลยให้การสารภาพความผิดระหว่างการสอบสวน แต่เมื่อถึงศาล จำเลยปฏิเสธความผิดโดยอ้างข้อแก้ตัวที่น่าไม่เชื่อถือว่าผู้เป็นล่ามแปลผิด และภายหลังคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ไม่พบการเปลี่ยนแปลงพฤติการณ์อื่นใดในเรื่องที่เป็นเงื่อนไขในการพิพากษาโทษ การตัดสินโทษของศาลชั้นต้นจึงไม่สามารถถือว่าหนักเกินไปได้” ผู้พิพากษาแพ็กอ่านคำตัดสิน