ประชาชนยูเครน 10 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ หลังรัสเซียระดมยิงขีปนาวุธรอบใหม่
วันที่ 18 พ.ย. บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ระบุว่า ประชาชนยูเครน 10 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเคียฟ เมืองหลวง, เมืองวินนิตเซีย ทางตะวันตก, เมืองโอเดซา เมืองท่าทางตะวันตกเฉียงใต้ และเมืองซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือ
หลังรัสเซียระดมยิงขีปนาวุธใส่ยูเครนครั้งล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 พ.ย. โดยโจมตีที่ตั้งพลังงานและที่ตั้งพลเรือนมากขึ้นที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 รายในอาคารอพาร์ตเมนต์ในเมืองวิลเนียนสก์ ใกล้เมืองซาโปริฌเฌีย ทางใต้ของยูเครน และจำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะสูงขึ้น
“เรากำลังทุกทำวิถีอย่างเพื่อให้การจ่ายไฟฟ้ากลับสู่ภาวะปกติ” นายเซเลนสกีกล่าวในการการปราศรัยช่วงค่ำเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 พ.ย. และเสริมว่า ระบบการกำลังป้องกันทางอากาศของยูเครนยิงตกขีปนาวุธร่อน 6 ลูก และโดรน 5 ตัวที่โจมตีได้
ขณะเดียวกัน นายดมีตรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน ตอบโต้รายงานข่าวล่าสุดที่ว่าประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน จะพิจารณาการใช้อาวุธนิวเคลียร์ยุทธศาสตร์ในยูเครนและจะหารือประเด็นนี้หรือไม่ว่า ไม่มีใครจากฝั่งรัสเซียหารือประเด็นนี้
ส่วนความคืบหน้าข้อตกลงส่งออกธัญพืชทางเรือในทะเลดำ รัฐบาลยูเครนระบุว่า ได้รับการขยายเวลาออกไปอีก 120 วัน หลังรัสเซียยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 พ.ย. ว่าข้อตกลงจะมีผลต่อไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
ข้อตกลงดังกล่าวที่สหประชาชาติและตุรกีเป็นผู้เจรจาเปิดทางให้ธัญพืชหลายล้านตันส่งออกจากยูเครนตั้งแต่เดือนก.ค. ลดความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงด้านอาหารโลก เนื่องจากก่อนหน้านี้รัสเซียปิดกั้นท่าเรือทะเลดำของยูเครน