ผู้บริหารนครศรี ยูไนเต็ด พัทธ์ธีรา ศุภศรีธนานันต์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด โพสต์ข้อความโดนนักเตะในสังกัดขู่ทำร้ายร่างกาย ด้านนักเตะโร่ปฏิเสธ
จากกระแสในโลกออนไลน์ ซึ่งได้รับความสมใจเป็นวงกว้าง หลังจากการโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวของ “ลูกเกด” พัทธ์ธีรา ศุภศรีธนานันต์ ที่ปัจจุบัน เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ดูแลในส่วนการจัดหางบประมาณและสิทธิประโยชน์สปอนเซอร์ ให้กับสโมสร นครศรี ยูไนเต็ด ทีมไทยลีก 2 ที่มีข้อความว่า ” เมื่อวานเกิดเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดในชีวิต!!! ถึงขั้นร้องไห้ไม่หยุด ยังไม่ได้นอน ใจสั่น และช็อคไม่หายจนตอนนี้ คิดถึงภาพเมื่อวานขึ้นมา สภาพจิตใจแย่เป็นพักๆ ร้องไห้ไม่หยุด”
“เกิดมาไม่เคยถูกผู้ชายกระโจนเข้ามาจะทำร้ายร่างกายแบบตั้งใจจะทำร้าย และซ้ำร้ายถึงขั้นวิ่งไปหยิบมีดในครัวจะมาแทง และขู่อาฆาตจะแทงให้ตาย และขู่ลูกน้องที่ไปด้วยว่าจะกระทืบให้ตายถ้าเจอที่ไหน โชคดีในเหตุการณ์มีบุคคลอยู่หลายคน ล็อกตัวคนผู้นั้นไว้ นึกถึงเมื่อวานถ้าโดนแทงตาย ข่าวคงดังไม่ใช่น้อย และคงทำให้ใครบางคนเสียอนาคตไปเลย กับความทำอะไรไม่คิด และไม่สำนึกผิด”
- ไม่สนดราม่า – โรนัลโด ยิ้มแย้มเข้าแคมป์ทีมชาติโปรตุเกส เตรียมตัวบู๊บอลโลก
“นึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานตอนราวๆเที่ยงกว่า ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเราในชีวิต ตอนนี้แจ้งความไว้ที่สน.เรียบร้อย ต้องขอบพระคุณ คุณตำรวจที่ดูแลอย่างดี แถมเป็นแฟนบอลนครศรียูไนเต็ด จำกันได้ และคอยปลอบขวัญตลอดที่เห็นเราร้องไห้”
“หากมีจิตสำนึกผิดอยู่บ้าง เรื่องจะจบลงแบบเงียบๆ หากไม่มี จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เกิดมาในชีวิตพึ่งเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ผิดแต่ไม่สำนึก เก่งแต่กับผู้หญิง ที่ไม่มีทางสู้และมีแต่ 2 มือเปล่า”
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พัทธ์ธีรา ศุภศรีธนานันต์ ว่า “ได้มีการนำเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปลงบันทุกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานเอาไว้แล้วที่สถานีตำรวจนครบาลคลองตัน เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและทีมงานหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และต้องขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่สอบถามเข้ามาด้วยความเป็นห่วง ”
ขณะเดียวกับทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปทาง สันติธรณ์ ลัทธิรมย์ ซึ่งเป็นนักเตะที่มีชื่อปรากฏตามใบบันทึกประจำวันดังกล่าวเพื่อที่จะสอบถามเหตุการณ์ทีเกิดขึ้น โดยแข้งรายดังกล่าวได้แล้วและมีการให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเจ้าตัวอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสรุป 3 ข้อด้วยกัน
1. คุณลูกเกดไม่สามารถบังคับตัวผมไปไหนก็ได้เป็นสิทธิส่วนบุคคล 2. เรื่องผมไปทำร้ายร่างกาย ผมยังไม่ได้่ไปโดนตัว ที่พูดไปเพราะต้องการให้เขาออกจากบ้านผมไป เพราะเข้ามาพูดจาเสียงดังลูกชายผมตกใจร้องให้ มาด่าภรรยาผม ผมต้องปกป้องครอบครัว ผมไม่ได้มีเจตนาทำร้าย ผมไม่ได้หยิบมีด เป็นเพียงกรรไกรเพียงแค่การข่มขู่ให้เขาออกจากบ้าน
3. หลังจากซ้อมบอลเสร็จได้มีรถคันหนึ่งขับมาขวางหน้ารถเพื่อต้องการจะคุย แต่ผมบอกว่ามันไม่ได้เจรจานัดมาก่อนผมปฏิเสธที่จะคุย