น้ำท่วมฉับพลัน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย หลายเมืองถูกตัดขาด
วันที่ 14 พ.ย. รอยเตอร์ รายงานว่า ฝนตกหนักที่ทำให้ น้ำท่วมฉับพลัน ตัดขาดหลายเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย เมื่อวันจันทร์ที่ 14 พ.ย. พร้อมประกาศเตือนอพยพครั้งใหม่สำหรับชาวบ้านนับพันคน
อุทกภัยครั้งใหญ่ครั้งที่สี่ของออสเตรเลียปีนี้ส่งผลให้สภาพอากาศแปรปรวนในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ และทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐวิกตอเรียในชั่วข้ามคืน ทำให้ริมฝั่งแม่น้ำเอ่อล้น และสร้างความเจ็บปวดแก่ชาวเมืองที่เบื่อหน่ายน้ำท่วมมากขึ้น
นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลแบนีส ระบุในทวิตเตอร์ว่า น้ำท่วมฉับพลันกำลังสร้างสภาพที่อันตราย และรัฐบาลกลางกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐต่างๆ ในความพยายามช่วยเหลือ
ขณะที่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ถนน สะพาน และฟาร์ม จมใต้น้ำ โดยเมืองโมลอง ห่างจากซิดนีย์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 300 กิโลเมตร และมีบ้านมากกว่า 2,000 หลัง เป็นหนึ่งในหลายเมืองที่เผชิญน้ำท่วมหนัก วิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นตู้คอนเทนเนอร์ใบหนึ่งและข้าวของในครัวเรือนลอยน้ำลงมากลางเมือง
ส่วนผู้อยู่อาศัยในเมืองยูโกวรา ประชากรราว 800 คน ได้รับคำสั่งย้ายไปที่สูงหลังเจ้าหน้าที่เห็นว่าการอพยพจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากน้ำท่วมฉับพลัน ส่วน
ทั้งนี้ ชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียกำลังประสบกับปรากฏการณ์สภาพอากาศลานีญาที่หายากเป็นปีที่สามติดต่อกัน ปรากฏการณ์ดังกล่าวสัมพันธ์กับปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้น
ขณะนี้มีคำเตือนเกี่ยวกับน้ำท่วมมากกว่า 100 ครั้งทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์ และ 84 ครั้งในรัฐวิกตอเรีย หลังข้อมูลของสำนักพยากรณ์อากาศระบุว่า พื้นที่บางแห่งได้รับปริมาณน้ำฝนมากกว่า 1 เดือนตลอด 24 ชั่วโมง
นายทิม วีบุช หัวหน้าปฏิบัติการฉุกเฉินรัฐวิกตอเรีย บอกสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่า “เราเห็นน้ำท่วมฉับพลันหลายครั้งที่ถนนจมใต้น้ำ เรามีน้ำเข้าบ้านแล้ว … น้ำลึกถึงข้อเท้าในบางพื้นที่”
ฝนตกหนักและพายุฝนฟ้าคะนองยังกระทบรัฐเซาท์ออสเตรเลียในช่วงสุดสัปดาห์ โรงเรียนหลายสิบแห่งถูกบังคับปิดการเรียนการสอน ขณะที่บ้านหลายพันหลังยังไม่มีไฟฟ้าใช้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
น้ำท่วมฉับพลันใน ออสเตรเลีย – รัฐควีนส์แลนด์มีฝนสูง 50 เซนติเมตร