เพื่อไทย สับโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว ‘ประยุทธ์’ กลวง มีช่องโหว่สูง ขาดความพร้อม ทำโอกาสทองไทยหลุดในเวทีเอเปค
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2565 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) และผอ.ศูนย์นโยบายพรรค กล่าวกรณีไทยชูโมเดลเศรษฐกิจ BCG (เศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว: Bio-Circular-Green Economy) เป็นวาระหลักในการประชุมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค ว่า โมเดลเศรษฐกิจ BCG ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกผลักดันให้เป็นวาระหลักของการประชุมเอเปค ซึ่งในเวทีการประชุมสำคัญระดับนี้ เป็นโอกาสทอง ที่เจ้าภาพสามารถผลักดันวาระการหารือเพื่อประโยชน์ต่อสมาชิกและต่อชาติของตน คำถามคือการใช้โอกาสทองในการผลักดันโมเดล BCG นี้ ไทยได้ประโยชน์ ได้เปรียบและมีแต้มต่อหรือไม่
โดย 1.พรรคสนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ควบคู่กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม โดยโมเดลการพัฒนาคู่ขนานนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสมดุล แต่รายละเอียด รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนในโมเดล BCG ของรัฐบาลนั้น ล้มเหลว ขาดความพร้อมในการเป็นวาระหลักในการประชุมระดับเอเปค
2.โมเดลเศรษฐกิจ BCG ยังกลวง ล่องลอย ย้อนแย้งและมีช่องโหว่สูง ข้อกล่าวหาเรื่องการเพิกเฉยต่ออุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิล สนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากขยะ รวมถึงการเอื้อกลุ่มทุนใหญ่ และการฟอกเขียวของโมเดล BCG ยังถูกตั้งคำถามอย่างหนักในสังคม แต่รัฐบาลยังไร้ซึ่งคำตอบ
3.ไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพ มีพื้นฐานด้านการเกษตรที่สมบูรณ์ แต่ชาติที่ได้ประโยชน์สูงสุดจาก BCG คือ ชาติที่สามารถสร้างนวัตกรรมทางด้านการเกษตรระดับกลางถึงสูง มีเทคโนโลยีชั้นสูงในการใช้ประโยชน์ต่อยอดจากฐานด้านการเกษตร ซึ่งเหล่านี้ยังไม่ใช่ไทยในปัจจุบัน ทำให้ไทยไม่ได้เป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด
4.ไทยตกเป็นผู้ตามด้านเศรษฐกิจสีเขียว ในช่วงรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ บทบาทและจุดยืนเรื่องสิ่งแวดล้อมบนเวที COP26 ขาดความชัดเจน เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ที่ไร้ซึ่งแผน ไร้แนวทางการปฏิบัติ ขาดรูปธรรม อีกทั้งอันดับความเสี่ยงของไทยจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศสูงเป็นอันดับที่ 9 ของโลก สะท้อนความเป็นผู้ตามบนเวทีโลก
5.อินโดนีเซีย เจ้าภาพการประชุม G20 ชูประเด็นการฟื้นตัวและโลกหลังโควิดแบบเชื่อมโยงกันผ่านห่วงโซ่อุปทานที่เกื้อกูลกัน ครอบคลุมหลายมิติ ซึ่งแหลมคม ตอบโจทย์ตรงสถานการณ์ แต่โมเดล BCG ที่ล่องลอยที่รัฐบาลไทยชูในการประชุม เอเปค ผนวกกับบทบาทของอินโดนีเซียที่แซงหน้าไทยไปไกลในเวทีโลก ทำให้เวทีเอเปคในประเทศไทยนั้น เงียบเหงาและถูกมองข้าม
นายเผ่าภูมิ กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจต้องควบคู่กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม โมเดลการพัฒนาคู่ขนานเป็นแนวทางที่ใช้เป็นแรงผลักในการขับเคลื่อนประเทศได้ แต่การผลักเป็นวาระหลักในการประชุมเอเปค ไม่ใช่บทบาทที่คนไทยได้ประโยชน์สูงสุดในเวลานี้ ทำให้โอกาสทองจากการเป็นเจ้าภาพการประชุมนั้นหลุดลอยไป