ไรเดอร์หนุ่มช็อก เตือนอุทาหรณ์สอนใจ อยากได้เงินพันไปซื้อขนมให้ลูก 3 คน โดนโจรหลอกให้เปิดบัญชีธนาคาร สุดท้ายกลายเป็นผู้ต้องหา เหยื่อ 14 รายแจ้งจับสูญเงินกว่า 2.8 ล้านบาท ยันบริสุทธิ์ใจโดนหลอก เตรียมตัวขี่รถจยย.จากเมืองนนท์ไปพบตำรวจที่อุบลฯ
จากกรณีหนุ่มไรเดอร์ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัย ถูกมิจฉาชีพหลอกให้เปิดบัญชีธนาคาร แต่ไม่เอาเล่มสมุดตัวจริง สุดท้ายโดนหมายเรียกมีชื่อตกเป็นผู้ต้องหา เหยื่อ 14 รายแจ้งความ ต้องขี่รถจักรยานยนต์จากเมืองนนทบุรีไปพบตำรวจที่อุบลราชธานี
โดยเรื่องนี้ วันที่ 13 พ.ย.2565 นายนิรันดร์ (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 42 ปี อาชีพไรเดอร์วิ่งรับ-ส่งอาหาร เปิดเผยว่า วันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างที่ออกไปวิ่งรับส่งอาหารตามปกติ ระหว่างนั่งรอออเดอร์งานมาครึ่งวันแต่ก็ยังไม่ได้สักงาน ลูกชายโทรมาขอค่าขนม ซึ่งตอนนั้นไม่มีเงินติดตัวที่เลยแล้วบังเอิญไปเจอกลุ่มรับซื้อขายบัญชีธนาคารต่างๆในเฟซบุ๊ก เลยลองทักข้อความไปหาคนที่ลงประกาศรับซื้อเพื่อลองติดต่อสอบถามรายละเอียดดู
ได้สอบถามว่า ต้องการนำบัญชีธนาคารไปทำอะไร มิจฉาชีพที่รับซื้อก็อ้างว่า จะนำบัญชีไปขายต่อให้กับแรงต่างด้าวที่แอบเข้ามาทำงาน ก็ยังย้ำคำถามไปอีกครั้งว่า ถ้านำบัญชีมาขายต่อให้จะไม่มีหมายตามมาใช่ไหม มิจฉาชีพอ้างว่าไม่มี เขาจะให้ค่าจ้างเปิดบัญชีเป็นเงิน 1 พันบาท พร้อมกับเงินอีก 100 บาท ที่ต้องใช้เปิดบัญชีกับทางธนาคาร
มิจฉาชีพรายนี้บอกเงื่อนไขมาว่า เขาต้องการให้ผมไปเปิดบัญชีของธนาคารแห่งหนึ่ง โดยให้ใช้หมายเลขโทรมือถือของเขาผูกกับบัญชีเพื่อเปิดแอพธนาคารไว้ ด้วยความไม่เอ๊ะใจและต้องการหาเงินไปซื้อขนมให้ลูกทั้ง 3 คน ตัดสินใจนำเงิน 100 บาทที่มิจฉาชีพรายนี้โอนเข้าบัญชีส่วนตัวมาให้ไปเปิดบัญชี ได้ค่าจ้างมาเป็นเงินครั้งละ 500 บาท 2 ครั้ง
นายนิรันดร์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นวันที่ 17 ก.ย.มีผู้เสียหายโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาหา สอบถามเรื่องเงิน 1.4 แสนบาทที่โอนเข้าบัญชีมา ด้วยความตกใจและไม่รู้เรื่องว่ามีเงินโอนเข้ามามากจึงนัดให้ทางผู้เสียหายมาพบกันสภ.บางใหญ่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผู้เสียหายเดินทางมาพูดคุยแล้วก็ทราบว่าเราก็ถูกมิจฉาชีพหลอกให้ไปเปิดบัญชีมาเช่นกัน จึงให้ตนช่วยพยายามติดต่อเพื่อนำข้อมูลมาให้ตำรวจ แต่ปรากฏว่าถูกบล็อกการติดต่อไปแล้ว
“ต่อมาวันที่ 18 ก.ย. ตัดสินใจเดินทางไปที่ธนาคารก็รู้ความจริงที่น่าตกใจยิ่งขึ้นไปอีก ธนาคารพบว่ามีผู้เสียหายถึง 14 รายที่ถูกมิจฉาชีพรายนี้นำบัญขีของผมไปหลอกเอาเงิน 2,891,209 บาท ถูกถอนผ่านแอพธนาคารไป 2,885,155 บาท เหลือติดบัญชีไว้เพียง 6 พันบาท
ตอนนั้นเข่าอ่อนแทบทรุด เพราะไม่คิดว่าบัญชีที่เปิดให้คนร้ายไปเพียงเพื่อต้องการนำเงินไปซื้อขนมให้ลูกๆ จะถูกนำหลอกลวงผู้เสียหายเป็นเงินจำนวนมากขนาดนี้ คงไม่มีเงินมากมายขนาดนี้หามาคืนผู้เสียหายได้ทุกคน เพราะทุกวันนี้แค่สิ่งรับส่งอาหารกับผ่อนจ่ายเงินกู้รายวันก็แทบไม่เหลือเงินแล้ว”
นายนิรันดร์ กล่าวอีกว่า ได้แต่เตรียมทำใจรอรับหมายเรียกต่างๆจากเจ้าทุกข์ผู้เสียหาย จนกระทั่งมีหมายเรียกจากตำรวจ สภ.เหล่าเสือโก้ก จ.อุบลราชธานี แจ้งให้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนวันที่ 15 พ.ย.นี้ ด้วยความที่ไม่ค่อยจะมีเงินเป็นค่าเดินทางตัดสินใจว่าจะขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้วิ่งงานอยู่เป็นพาหนะเดินทางไปพบตำรวจ
อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปิดกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ในเฟซบุ๊กและช่วยสืบหาต้นตอมิจฉาชีพที่หลอกให้ตนเปิดบัญชี อย่าให้พวกมันสบายบนความลำบากของคนอื่น เหมือนครอบครัวผมที่กำลังเผชิญหน้ากับเรื่องนี้ ถ้าหากย้อนเวลาได้คงไม่ตัดสินใจแบบนั้นแน่นอน คงจะคิดได้รอบคอบมากกว่านี้