รวบยกแก๊ง 3 ผู้ต้องหา ปล้นทองห้างโลตัสเสนา อยุธยา เผยหัวหน้าทีมเป็นอดีตนักการเมือง ทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ ยังไม่พบของกลาง คุมตัวฝากขังศาล

กรณีคนร้ายสวมหมวกกันน็อกบุกเดี่ยวเข้าไปภายในห้างโลตัส สาขาเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ใช้ปืนยิงตู้โชว์กวาดทองหนัก 86 บาท ค่ากว่า 2 ล้านบาท ก่อนหนีวางระเบิดปลอมข่มขู่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 9 พ.ย.65 มีชาวบ้านที่หาปลาพบรถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาวดำ เบาะสีน้ำตาล ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เป้ ลักษณะคล้ายกับรถจยย.ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ถูกทิ้งไว้ในพงหญ้า ริมถนน ม.6 ต.น้ำเต้า อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 12 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ชุดสืบสวน สภ.เสนา นำกำลังเข้าปิดล้อม ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ใน ต.รางจรเข้ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อจับกุมตัวนายกฤษรัชญ์ หรือกอล์ฟ ผู้ต้องหาอีก 1 ราย ที่ถูกออกหมายจับ

ทันทีที่เห็นกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ต้องหาลื่นล้มจนได้รับบาดเจ็บที่ขา เจรจาให้ออกมามอบตัว พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปทำแผลเบื้องต้น จากนั้นทางญาติพาตัวผู้ต้องหาออกมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวขึ้นรถไปสอบสวนทันที เพื่อขยายผลติดตามทองที่ก่อเหตุชิงไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจับกุมตัวกลุ่มผู้ต้องหา ชุดสืบสวนพบรถกระบะต้องสงสัยคันหนึ่งขับผ่านบริเวณ จุดที่คนร้ายที่ก่อเหตุนำรถจักรยานยนต์มาจอดทิ้งไว้ในพงหญ้า จากนั้นก็แกะรอยรถกระบะคัน จนทราบกลุ่มผู้ต้องสงสัยเฝ้าดูพฤติกรรม จนกระทั่งพบผู้ต้องสงสัยนำทองรูปพรรณไปขายที่ร้านทอง ย่านนวนคร ที่จ.ปทุมธานี จึงรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับผู้ต้องหา 3 คน นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา

ได้แก่ นายนรากร หรือ บูม (คนก่อเหตุ) นายศักดา หรือ หนึ่ง (คนวางแผน) และนายกฤษรัชญ์ หรือ กอล์ฟ คนพาหลบหนีดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ และไม่พบของกลางที่ปล้นมา ทางเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนและติดตามหาของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งตัวฝากขังศาลแล้ว

แหล่งข่าวจากชุดสืบสวนฯ ระบุว่า 1 ใน 2 ผู้ต้องหา ที่ถูกควบคุมตัวได้เป็นหัวหน้าทีมชิงทอง และยังเป็นอดีตนักการเมืองท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ในอ.เสนา แต่ออกจากตำแหน่งไปแล้ว และเมื่อตรวจสอบพบว่า อดีตนักการเมืองคนดังกล่าวยังเคยถูกเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 1 และตำรวจ ภ.จว.อยุธยาฯ เข้าตรวจสอบเมื่อปี 2561 คดีที่ถูกซัดทอดเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย