รังสิมา รอผลโพลก่อนตัดสินใจย้ายพรรค พร้อมทิ้งปชป.ถ้าอยู่แล้วไม่รอด ลั่นถ้ารอบนี้สอบตก เตรียมหาอาชีพใหม่-ไปขายหอยแทน

เมื่อวันที่ 10 พ.ย.65 ที่รัฐสภา น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกระแสข่าวการย้ายพรรคว่า ยอมรับว่าได้รับการติดต่อทาบทามจากทุกพรรคการเมือง ทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล แต่ไม่ใช่ว่าเราเล่นตัว เพราะการตัดสินใจต้องถามประชาชน เพราะการเมืองเปลี่ยนไปแล้ว ไม่เหมือนเดิม เช่น ตนเป็นพยาบาลมา 20 ปี คนไข้เยอะ และคนไข้ของเราก็เสียชีวิตไปทุกวัน ผ่านมา 4 ปี เด็กรุ่นใหม่ที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง เขาก็ดูแต่โซเชียล ไม่ได้ดูความเป็นจริงว่าเราทำงานเป็นอย่างไร จึงทำให้ตนหวั่นไหว ประกอบกับตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี เงินจึงเข้ามามีปัจจัยสำคัญ คิดว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า การซื้อเสียงจะรุนแรงมาก และเราเห็นแล้วว่าส.ส.แต่ละคน ก็มีการซื้อตัว เพื่อให้ได้มาซึ่งมือที่จะมายกเป็นรัฐบาล

“เมื่อการเมืองเปลี่ยนทุกวัน ดิฉันจึงไปถามประชาชนว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าจะเลือกรังสิมาหรือไม่ ทุกคนก็บอกว่าเลือกเรา ดังนั้นถ้าดิฉันไปถามเอง เขาก็ต้องบอกว่าเลือกเรา จึงต้องให้ทำโพลสอบถามความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ก่อน เพราะดิฉันลงเลือกตั้งมา 6 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หวั่นไหวที่สุด กลัวจะสอบตก แต่ถ้าสอบตกก็ไม่เป็นไร ยอมรับสภาพ ถ้าประชาชนไม่เลือกก็เลิก บางคนก็ถามว่ารังสิมา ถ้าสอบตกจะไปทำอะไร ก็ตอบไปว่า ฉันก็ขายหอยของฉันสิคะ หอยฉันขายได้นะคะ เพราะได้เตรียมอาชีพไว้แล้ว” น.ส.รังสิมา กล่าว

น.ส.รังสิมา กล่าวต่อว่า ในการทำโพลนั้นได้สอบถามประชาชนว่าถ้ายังอยู่พรรคปชป. ประชาชนยังเลือกหรือไม่ และถ้าไม่เลือกจะให้เราไปอยู่พรรคไหน และที่ไม่เลือกเพราะอะไร และที่ให้ไปอยู่พรรคใหม่เพราะอะไร โดยต้องทำอย่างละเอียด ทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน เพราะจะให้แก้ปัญหาได้ถูก เดิมๆ เราใช้ไสยศาสตร์ แต่ปัจจุบันต้องใช้วิทยาศาสตร์ เพื่อความมั่นใจ เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมามีคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งเพียง 4 พันคะแนน จากอดีตที่ห่างถึง 4 หมื่นคะแนน แต่หากประชาชนให้อยู่พรรคปชป. ตนก็ต้องอยู่ต่อไป เพราะถ้าไปพรรคอื่นก็สอบตก ดังนั้นตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะอยู่หรือจะไป ต้องรอผลโพลว่าจะให้ไปอยู่พรรคไหนก็ไป แต่ไม่ได้ไปเร่งรัดในเรื่องการทำโพล เพราะไม่อยากแทรกแซงกลัวข้อมูลที่ได้มาไม่จริง เสียเงินปล่า และเราก็สอบตกด้วย

น.ส.รังสิมา กล่าวยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับพรรคปชป. แต่ถ้าโพลบอกไปไม่รอด เราก็บอกกับหัวหน้าพรรคแล้วว่าถ้าโพลออกมาว่าอยู่กับพรรคปชป.แล้วแพ้ ก็ต้องขออนุญาตออกก่อน และเลือกตั้งครั้งต่อไป ก็ไปๆ มาๆ ได้ ไม่เป็นไร แต่ถ้าอยู่พรรคปชป.แล้วรอดก็อยู่ต่อ แต่ถ้าไม่รอดก็ไป เพราะประชาชนเขาไม่เลือกเรา จะทำอย่างไรได้ ซึ่งหัวหน้าพรรคบอกว่า ขอให้อดทนอยู่ด้วยกัน อย่างไรก็ตามทุกพรรคมาชวนตนหมดเลย แต่เราก็ต้องเลือก ไม่ใช่ว่าไปเพราะเงิน ซึ่งเงินไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ การเลือกตั้งที่สมุทรสงคราม ตนลงมา 6 ครั้ง ไม่เคยซื้อเสียงเลย ซองก็ไม่ใส่ หรีดก็ไม่ให้ ตนเป็นคนที่แข็งมาก เพราะต้องการอยากให้ประชาชนรู้ว่าเลือกส.ส.ไปทำอะไร ถ้าเลือกคนซื้อเสียงก็โกงแน่นอน จึงไม่อยากให้เลือกคนซื้อเสียง ให้เลือกคนที่เข้ามาทำงาน แต่เงินให้เอา เพราะเงินไม่ใช่งู มันไม่กัด แต่เวลาเลือกอย่าไปเลือก ขอให้คนที่ซื้อเสียงมันหมดตูด จะได้เลิกเล่นไปเสียที

“อยู่พรรคปชป. มานานก็เสียดาย ถ้าสมมติโพลออกมา แล้วบอกว่าอยู่แล้วแพ้ เราก็ต้องไป แต่ก็ไม่เป็นการเมืองเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ถ้าเราต้องการทำงานให้กับประเทศชาติ เราก็ต้องเอาตัวรอด เลือกตั้งคราวที่แล้วเกือบไม่รอด ต้องเปลี่ยนป้ายหาเสียง เอารูปพยาบาลมาติด เพลงประจำพรรคก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นเพลงตัวเอง ต้องพูดเองทั้งหมด จนรอดมาได้ เอาง่ายๆครั้งนี้กลัวตก เพราะไม่มีเงินและไม่มีหัวคะแนน เดินหาเสียงเอง“น.ส.รังสิมา กล่าว

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่มีข่าวเตรียมลาออกจาก พรรคปชป. ไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แล้วหรือยัง น.ส.รังสิมา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถ ยังไม่สามารถติดต่อน.ส.พิมพ์ภัทรา ได้ แต่วันนี้(10 พ.ย.) ได้นัดเจอกันเพื่อสอบถาม เนื่องจากไม่รู้เหตุผลที่ลาออก แต่เชื่อว่าทุกคนที่ย้ายพรรคไป มีเหตุผลทุกคน ซึ่งเราก็ไม่ว่ากัน ใครก็ได้ที่ไปแล้วรอด ก็ขอให้ได้กลับมาทุกคน