เด็กยิ้มกริ่ม เฮลั่นสนั่นบ้าน หลังครม.ใจดี เพิ่มค่าอาหารกลางวันให้หนูๆ เชื่อลดความเหลื่อมล้ำได้ แถมทำให้โครงการมีคุณภาพ สูงสุดด้วย
วันที่ 8 พ.ย.2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.อนุมัติปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันให้นักเรียนชั้นเด็กเล็ก – ชั้นป.6
โดยแบ่งเป็น 4 ระดับ ดังนี้ โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียน 1 – 40 คน ใช้เงินค่าอาหารกลางวัน 36 บาทต่อคนต่อวัน ,โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียน 41 – 100 คน ใช้เงินค่าอาหารกลางวัน 27 บาทต่คนต่อวัน ,โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียน 101 – 120 คนใช้เงินค่าอาหารกลางวัน 24 บาทต่อคนต่อวัน ,โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียน 121 คนขึ้นไป ใช้เงินค่าอาหารกลางวัน 22 บาทต่อคนต่อวัน
สำหรับอัตราค่าอาหารกลางวันตามขนาดของโรงเรียน ครอบคลุมนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 1 – ป.6 ของร.ร.ประถมศึกษา 5 สังกัด คือ สังกัด สพฐ. ,โรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รวมทั้งที่จัดตั้งขึ้นเองและรับถ่ายโอน,โรงเรียนสังกัดตำรวจตะเวนชายแดน สถานศึกษาสังกัดการศึกษานอกระบบ และ สถานศึกษาสังกัด กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จำนวน 5,792,119 คน
โดยครม.ได้อนุมัติหลักการในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พร้อมทั้งอนุมัติหลักการในการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี รายการค่าใช้จ่ายค่าอาหารกลางวันของนักเรียนเป็นอัตราดังกล่าว ตั้งแต่ ปีงบประมาณ 2567 เป็นต้นไปด้วย
การปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันตามขนาดของโรงเรียนว่า จะช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนน้อยกว่า 120 คน ช่วยให้การบริหารจัดการงบประมาณเป็นไปอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับขนาดของโรงเรียนและจำนวนนักเรียน ทำให้โครงการอาหารกลางวันให้มีคุณภาพและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้วย