โควิดลามนครกวางโจว ศูนย์กลางระบาดใหม่-ฮับอุตสาหกรรมการผลิตโลก

โควิดลามนครกวางโจว – วันที่ 8 พ.ย. รอยเตอร์รายงานว่า นครกวางโจว เมืองเอกมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศจีน ท่ามกลางความหวาดเกรงว่าทางการจีนจะใช้มาตรการล็อกดาวน์

ความหวาดเกรงดังกล่าวเนื่องมาจากนครกวางโจวนอกจากเป็นมหานครเกรดเอเทียบได้กับนครซานฟรานซิสโกของสหรัฐอเมริกาแล้วยังเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าของโลก หากทางการจีนใช้มาตรการล็อกดาวน์อาจส่งผลกระทบด้านการผลิตสินค้าหลายชนิดไปทั่วโลก

สำนักงานสาธารณสุขกลางของจีน ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มเป็น 7,475 คนแล้วในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 5,496 คน เมื่อวันก่อน โดยผู้ติดเชื้อใหม่ที่พบนั้นกว่า 1 ใน 3 อาศัยอยู่ในนครกวางโจว

แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จะน้อยเมื่อเทียบกับมาตรฐานของประชาคมโลกแต่ทางการจีนนั้นใช้ยุทธศาสตร์กวาดล้างแบบ ไดนามิก โควิด-ซีโร่ ซึ่งนำไปสู่การล็อกดาวน์ตามพื้นที่ระบาดหลายแห่งสร้างความย่อยยับให้เศรษฐกิจและผลกระทบใหญ่หลวงต่อการใช้ชีวิตของประชาชนจีน

ทางการนครกวางโจว ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 2,377 คน เพิ่มขึ้นจาก 1,971 เมื่อวันก่อน ถือเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยะสำคัญตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้นครกวางโจวกลายเป็นพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดแซงหน้าเมืองโฮฮอต (ฮูเหอเฮ่าเท่อ) ที่เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ภาคเหนือของประเทศ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคโควิด-19 ในจีน

สำนักงานเขตหลายพื้นที่ของนครกวางโจวประกาศใช้มาตรการสกัดกั้นการระบาดหลายรูปแบบแต่ยังพยายามหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการล็อกดาวน์แบบปูพรม สร้างความหวาดผวาให้กับผู้อยู่อาศัยว่าอาจต้องเผชิญกับการล็อกดาวน์แรมเดือนแบบนครเซี่ยงไฮ้

การระบาดของโรคโควิด-19 ในจีน ยังส่งผลกระทบต่อมหกรรมการแสดงผาดโผนทางอากาศที่นครเจิ้งโจว เมืองเอกมณฑลเหอหนาน หลังผู้เข้าชมและคณะผู้จัดงานบางส่วนไม่สามารถร่วมงานได้ตามกำหนดเนื่องจากมาตรการกวาดล้างโรคโควิด-19

ส่วนสถานการณ์ที่กรุงปักกิ่ง พบผู้ติดเชื้อใหม่ 64 คน ส่งผลให้ทางการจีนประกาศตรวจหาผู้ติดเชื้อด้วยเทคนิคพีซีอาร์ตามพื้นที่เสี่ยงทันที