ทำไมการเปิดตัวนโยบาย “รัฐสวัสดิการไทย ก้าวหน้า” จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างสูง
ย่อมเป็นคำถามอันเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติไทยพัฒนา
แม้กระทั่งจากพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคสร้างอนาคตไทย
ยิ่งพรรคก้าวไกล คือความต่อเนื่องมาจากพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเริ่มก่อตั้งในปี 2561 ก่อนการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 ยังไม่ถึงปีด้วยซ้ำ
ยิ่งก่อให้เกิด “คำถาม” กลายเป็นความข้องใจ
จะเข้าใจเรื่อง “นโยบาย” ต้องเข้าใจกระบวนการ “อภิปราย” ในสภาผู้แทนราษฎร
กระบวนการอภิปรายนั้นเองที่สร้างตัวตนของนักการเมืองโนเนมอย่าง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล อย่าง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อย่าง นายรังสิมันต์ โรม
หรือแม้กระทั่ง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ
ยิ่งกว่านั้น ที่โดดเด่นเป็นอย่างมากก็คือ เค้าโครงและกระบวนการเมื่อเข้าสู่ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
หากเข้าใจ “กระบวนการ” ก็จะเข้าใจ “ก้าวไกล”
แท้จริงแล้ว ส่วนหนึ่งของพรรคก้าวไกลพัฒนาการมาจากจุดเด่นของพรรคไทยรักไทย
จุดเด่นของพรรคไทยรักไทยในการต่อสู้ทางการเมือง คือ ความสามารถในการสถาปนา “นโยบาย” มาให้เป็นหนทาง “เลือก” ของประชาชน
พรรคอนาคตใหม่เป็นเช่นนี้ พรรคก้าวไกลเป็นเช่นนี้
เพียงแต่ในยุคพรรคอนาคตใหม่อาจถูกสังคมมองข้าม แต่เมื่อมาเป็นพรรคก้าวไกลพลันที่เปิดตัว การเมืองไทย ก้าวหน้า รัฐสวัสดิการไทย ก้าวหน้า ก็เป็นที่ฮือฮา
ฮือฮา เพราะลักษณะ “รูปธรรม” และแหล่งที่มาของ “เงิน”
มีน้อยพรรคการเมืองที่จะเน้นในเรื่อง “แหล่งที่มา” ของเงินที่จะปฏิบัติตาม “นโยบาย”
เมื่อ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ออกมาแจกแจงประสานกับการจัดทำอินโฟ กราฟิก อย่างทะลุปรุโปร่ง ทำความเข้าใจได้อย่างง่ายดาย
“นโยบาย” ของพรรคก้าวไกลจึงโดดเด่นเป็นสง่า