คำผกา ชี้ศึกด.ญ.14 รุมตบเด็ก 13 แย่งแฟนรุ่นพ่อ สัญญาณอันตราย สะท้อนสังคมเหลื่อมล้ำ

Home » คำผกา ชี้ศึกด.ญ.14 รุมตบเด็ก 13 แย่งแฟนรุ่นพ่อ สัญญาณอันตราย สะท้อนสังคมเหลื่อมล้ำ


คำผกา ชี้ศึกด.ญ.14 รุมตบเด็ก 13 แย่งแฟนรุ่นพ่อ สัญญาณอันตราย สะท้อนสังคมเหลื่อมล้ำ

คำผกา ชี้ศึกด.ญ.14 รุมตบเด็ก 13 แย่งแฟนรุ่นพ่อ สัญญาณอันตราย สะท้อนสังคมเหลื่อมล้ำ อีก 10 ปีข้างหน้า ประชากรไทยจะเป็นแบบนี้ 70-80%

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 4 พ.ย. 2565 ข่าวสดออนไลน์ จัดรายการ “ข่าวจบ คนไม่จบ” ดำเนินรายการโดย อั๋น ภูวนาท คุนผลิน และแขก ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำ ผกา ในหัวข้อ “ศึกฟันน้ำนม ด.ญ.14 รุมตบอัดคลิปประจาน ด.ญ.13 ปมแย่งหนุ่มรุ่นพ่อ”

  • ด.ญ.14 ยกพวกรุมตบเด็ก 13 จับแก้ผ้าถ่ายคลิปประจาน เหตุคิดว่าไปแย่งแฟนอายุ 50 ตัวเอง

อั๋น กล่าวว่า เรื่องนี้แดงขึ้นมา เพราะ ด.ญ.13 ทนไม่ไหว เนื่องจากกลุ่มที่กระทำมีการโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ทำให้น้องอับอาย ไม่กล้าไปโรงเรียน จึงมาแจ้งขอความช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการเชิญูผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยหาทางออกร่วมกัน

คำ ผกา กล่าวว่า เรื่องนี้มี 2 ประเด็น คือ 1.Cyberbullying (การกลั่นแกล้งทางออนไลน์) อีกประเด็นคือ เด็กอายุ 13 และ14 ตีกันด้วยเรื่องผู้ชาย อายุ 50 ปี ซึ่งมีข่าวว่าเพิ่งเข้าคุกไปด้วยข้อหายาเสพติด ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณว่าเยาวชนในประเทศไทยตกอยู่ในอันตราย สังคมเราต้องมีความอ่อนแอหรือมีช่องโหว่อะไรบางอย่างเกี่ยวกับนโยบายดูแลเด็กและเยาวชน

คำ ผกา กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้มีประเด็นดราม่าที่มีคนโพสต์เฟซบุ๊กเป็นรูปเด็กวัยรุ่น กทม. เป็นรูปเด็กสาธิตสดใสเดินสยามไปเรียนกวดวิชา กับอีกรูปเป็นเด็กอีสานในวัยเดียวกัน กำลังตั้งครรภ์และเลี้ยงลูกเล็กในสภาพท้องไม่พร้อม โดยอธิบายว่าเด็กกรุงเทพฯ สามารถจัดการชีวิตได้ดีกว่า แต่เด็กต่างจังหวัดอายุ 14-15 ใจแตกมีลูกกันหมดแล้ว คนก็ดราม่าว่านี่คือการเหยียด

คำ ผกา กล่าวอีกว่า สำหรับตนมองว่านี่เป็นสัญญาณเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคมในทุกมิติ ความเหลื่อมล้ำด้านความปลอดภัยทางสังคม หมายถึงโรงเรียนต้องเป็นสถานที่ปลอดภัย ให้การดูแลเด็กทั้งในเรื่องการศึกษาที่เป็นความรู้วิชาการ และวิชาเกี่ยวกับการใช้ชีวิต ซึ่งมันสะท้อนผ่านคุณภาพของโรงเรียน ระหว่างโรงเรียนลูกคนรวย กับโรงเรียนของเด็กกเฬวรากยากจนที่เป็นร้อยละ 70 ของประเทศ

คำ ผกา กล่าวต่อว่า สะท้อนให้เห็นว่า สถานะทางเศรษฐกิจของผู้ปกครองที่มีความพร้อม มีเงิน มีความรู้ มีเวลา ได้เข้าอบรมในโรงเรียนสำหรับสอนพ่อแม่ เข้าถึงนักจิตวิทยา เข้าถึงจิตแพทย์ สามารถเลี้ยงดูลูกได้เป๊ะมาก แล้วลูกก็เติบโตมาอย่างถูกต้อง ได้อ่านหนังสือ มีกิจกรรมเสริมความรู้ สามารถประคองชีวิตให้มีวุฒิภาวะ และผ่านช่วงวัยรุ่นไปได้ด้วยดี

“ในขณะที่สังคมต่างจังหวัดซึ่งครอบครัวแตกฉานซ่านเซ็น พ่อไปทางแม่ไปทาง ด้วยปัญหาเศรษฐกิจ พ่อติดเหล้า แม่ต้องไปทำงานต่างจังหวัด ตายายไม่มีความรู้เลี้ยงดูหลาน หรือตาอายุ 40 มีประเด็นข่มขืนหลานอายุ 5-6 ขวบ เราเห็นเลยว่ามันเกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่ทำให้ครอบครัวมีความสามารถหรือมีทรัพยากรที่จะดูแลเด็กไม่เหมือนกัน ท้ายที่สุดก็สะท้อนออกมาในอนาคตของเด็ก ปลายทางชีวิตของเด็ก 2 คน ซึ่งมีต้นทุนไม่เท่ากัน คนหนึ่งก็ลงเหวลงนรกไปเรื่อยๆ คนนึงก็มีชีวิตที่ดีงามสวยงามตามวัยไปเรื่อยๆ”

คำ ผกา กล่าวอีกว่า ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเด็ก 2 คนนี้หรือไม่ มันเป็นความผิดของสังคมที่สร้างความเหลื่อมล้ำนี้ขึ้นมา แล้วปีศาจนี้ก็ตามหลอกหลอนเราไม่หยุดย่อน สุดท้ายเราก็ต้องมานั่งอ่านข่าวเด็ก 13-14 ยกพวกตีกันแย่งผู้ชายอายุ 50 เรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ในอีก 10 ปีข้างหน้า ทรัพยากรมนุษย์ในประเทศไทย 70-80% เราจะมีแต่คนแบบนี้ ซึ่งไม่ใช่ความผิดของเขา แต่เป็นเพราะเราไม่ได้ฝากต้นทุนไว้กับใครที่จะต่อยอดให้สังคมดีขึ้น แล้วเราก็เต็มไปด้วยการแก้ไขปัญหาแบบอีหลักอีเหลื่อ ประเทศนี้ป่วย สังคมนี้ป่วย แล้วเราไม่ยอมรับว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของความป่วยไข้นั้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ