บิ๊กป๊อก ลั่น หากปชช.ไม่สบายใจ พร้อมยกเลิก กม.ขายที่ดินให้ต่างชาติ เผย อยู่ในขั้นตอนกฤษฎีกา สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ ยันไม่เคยคิดขายชาติ หวังช่วยกระตุ้นศก.
เมื่อเวลา 10.35 น. วันที่ 3 พ.ย. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม เข้าสู่ช่วงกระทู้ถามสด โดยนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่า สืบเนื่องจากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดิน เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว
นายสุทิน กล่าวต่อว่า สาระสำคัญเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเชิญชวนให้ต่างชาติมาลงทุน คนละไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท เพื่อครอบครองที่ดินได้คนละ 1 ไร่ ทำให้คนไทยเกิดความวิตก ว่าจะเปิดช่องให้ต่างชาติเข้ามาเป็นเจ้าของที่ดิน ขณะที่คนไทยยังมีความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดินสูงมาก
“ข้อวิตกนี้ทำให้เกิดประโยคว่ามีการขายชาติ จึงอยากถามถึงความจำเป็นหรือมีเหตุผลอะไร ที่ต้องมีมติครม.ลักษณะนี้ออกมา แม้ว่าในอดีตที่รัฐบาลก่อนเคยทำ แต่ก็ทำตามข้อจำกัดและความจำเป็น อย่างไรก็ตาม การออกร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ถือว่ารัฐบาลยอมรับแล้วหรือไม่ ว่าจนมุมทางด้านเศรษฐกิจแล้ว” นายสุทิน กล่าว
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย รับมอบหมายจากนายกฯ ให้ชี้แจงแทน ระบุว่า การออกกฎกระทรวงใหม่ เริ่มมาจากวิกฤตโควิด-19 คณะทำงานเศรษฐกิจเชิงรุกจึงคิดว่าทำอย่างไรจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งมีการพิจารณาหลายเรื่อง รวมถึงร่างกฎกระทรวงใหม่ดังกล่าว ที่ต้องการให้ต่างชาติที่อยากมาพำนักในประเทศไทยในระยะยาว ได้มีการลงทุนด้วย
โดยมีการตรวจสอบแบล็กลิสต์ต่างๆ และการพิสูจน์เรื่องความเชี่ยวชาญพิเศษ เรามีขั้นตอนการพิจารณากลั่นกรองคนกลุ่มนี้เข้ามา ที่จะต้องได้ Long-Term Resident Visa หรือ LTR ซึ่งการออกกฎกระทรวงใหม่มีความรัดกุมมากกว่าเดิม เพราะมีการกำหนดระยะเวลาลงทุน 3 ปี จึงจะขายได้ มีการเพิ่มว่าต้องลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และที่ดินต้องอยู่ในเขตที่กำหนดว่าอนุญาตให้เป็นที่อยู่อาศัยได้ นี่คือเจตนาและความตั้งใจ ที่เราออกมาตรการที่รัดกุม
“เราไม่มีเจตนาขายชาติ ไม่มีใครทำเช่นนั้น ผมเชื่อว่าคนในสภานี้ ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน คงไม่มีเจตนาแบบนั้น ดังนั้น หากจะมาพูดว่าขายชาติ คงต้องปฏิเสธว่าไม่มี ไม่มีใครคิดเช่นนั้น และไม่ได้ต้องการให้ต่างชาติครอบครองที่ดินตามที่เกรงกลัว เรามีมาตรการระเบียบรองรับแล้ว ส่วนที่กังวลว่าต่างชาติจะซื้อที่ดินแปลงติดกันจนผิดปกตินั้น เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นเด็ดขาด” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ร่างกฎกระทรวงนี้อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกา ทราบว่ากำลังจะรับฟังความคิดเห็น ถ้าท่านห่วงใยก็ยังอยู่ในขั้นตอนที่ทำได้ทุกอย่าง เพื่อให้ประชาชนหายแคลงใจ เราอาจกำหนดให้เข้มงวดมากกว่านี้ เช่น เพิ่มการลงทุนเป็น 100 ล้านบาท หรือเพิ่มเวลาจาก 3 ปี เป็น 10 ปีก็ได้ เพื่อนำกลับมาให้ครม. พิจารณา
“ผมคิดว่าอาจจะล้มก็ได้ อันนี้ผมตอบแทนไว้ เพราะผมก็เป็น 1 ในครม. หากประชาชนไม่สบายใจมีความกังวลมาก เมื่อมีการทักท้วงก็ทำได้ ไม่มีอะไรเสียหน้าทั้งสิ้น ก็ฟังความเห็นกัน แต่ที่อยากชี้เจตนาคือไม่มีเรื่องขายชาติ แต่เป็นการทำนโยบายด้านเศรษฐกิจจนเกิดกฎกระทรวงดังกล่าว และไม่มีเจตนาเอื้อกลุ่มทุน เพราะไม่ใช่ธุระ ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลจะไปโอบอุ้มหรือเกี่ยวข้องตรงนั้น” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนก็ต้องทำทุกอย่าง ทุกแนวทาง อยากได้นักท่องเที่ยวก็ต้องหานักท่องเที่ยว อยากได้นักลงทุนก็ต้องออกมาตรการหานักลงทุน เป็นการใช้มาตรการแบบผสม ดังนั้น ขอว่าอย่าคิดในเชิงกังวล อยากให้มองโลกในแง่ดีบ้าง