ภูมิใจไทย ชี้ พรรคเติบโตขึ้น ลั่นพร้อมสู้เลือกตั้ง ยอมรับสนามกทม.งานหิน หวังปักธงให้ได้ ส่วนพื้นที่เดิมทั่วประเทศต้องรักษาไว้ พร้อมบวกเก้าอี้ส.ส.เพิ่ม

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2565 นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมล่าสุดของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า ในส่วนของผู้สมัครขณะนี้มีความพร้อมแล้ว 80% ส่วนบางเขตเลือกตั้งที่พรรคยังไม่พิจารณา เพราะยังมีความซับซ้อนเนื่องจากมีผู้สมัครมากกว่า 2 คน โดยพรรคใช้วิธีการทำโพลสอบถามคนในพื้นที่

นายณัฏฐ์ชนน กล่าวต่อว่า ขณะที่นโยบายพรรคเบื้องต้นมี 7 นโยบาย ที่ทำเป็นโมเดลไว้ ซึ่งทางหัวหน้าพรรคจะเปิดนโยบายทีละจังหวัดแต่ละภาค เมื่อเปิดทุกพื้นที่เสร็จจะเป็นแคมเปญของพรรค ในการประกาศใหญ่ทั้งเรื่องผู้สมัครและนโยบาย ขอย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยพร้อมในการเข้าสู่การเลือกตั้ง และพร้อมมานานแล้ว

เมื่อถามว่า พรรคมียุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างไร นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า เราดูจำนวนส.ส.เมื่อการเลือกตั้งรอบที่แล้ว พรรคจึงมีนโยบายว่า อย่างน้อยส.ส.เดิมที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อปี 62 ต้องเข้าสภาให้ได้ ส่วนพื้นที่ที่เหลือต้องไปบวกเพิ่ม เช่น ภาคใต้ต้องรักษาพื้นที่เดิมไว้แล้วไปบวกเพิ่ม อาจจะเป็น 10-15 ที่นั่ง เราจะไม่ประกาศยุทธศาสตร์เฉพาะภาค เช่น ที่ผ่านมาในกทม. เราไม่ได้พุ่งเป้า ไม่ได้ใช้ยุทธศาสตร์เพื่อให้ได้รับชัยชนะ แต่เมื่อพรรคเติบโตขึ้น ส.ส.เขตจำเป็นต้องมีทุกภาค

ดังนั้น ยุทธศาสตร์ของพรรคจะไม่ใช่เฉพาะอีสานใต้ ภาคใต้ แต่ภาคกลาง ภาคเหนือ และพื้นที่กทม.จะเป็นพื้นที่เป้าหมายด้วย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าพื้นที่กทม.ถือว่ายากที่สุด เพราะเราไม่มีส.ส.เดิม มีแต่มาจากพรรคอื่น จึงถือว่าเป็นการบ้านของพรรคที่จะเริ่มต้นใหม่ ที่หากจะเติบโตได้ในเมืองต้องมีส.ส.ด้วย

“ต้องยอมรับว่าพื้นที่กทม.เป็นงานยาก แต่มั่นใจว่าคนกทม.จะเปิดใจพิจารณา โดยเฉพาะผู้นำของพรรคที่ไม่มีความขัดแย้ง วันนี้เชื่อว่าคนไทยจะเลือกเศรษฐกิจ ลดความขัดแย้ง วันนี้พรรคภูมิใจไทยน่าจะมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นแน่นอน” นายณัฏฐ์ชนน กล่าว

เมื่อถามว่า นโยบายกัญชาช่วยส่งเสริมหรือเป็นตัวฉุดคะแนนพรรค นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวเป็นของรัฐบาล โดยที่พรรคภูมิใจไทยเป็นคนนำเสนอไปก่อน วันที่กฎหมายฉบับนี้เข้าสภาฯ ส.ส.เกือบทุกพรรคอภิปรายเห็นด้วย และในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) ได้ช่วยกันพิจารณาออกมา 96 มาตรา ถือว่าเก็บรายละเอียดได้หมด

นายณัฏฐ์ชนน กล่าวอีกว่า ดังนั้น เราจึงมองเป็นเรื่องการเมืองก็ได้ เพราะเมื่อนโยบายนี้สำเร็จ ความนิยมพรรคภูมิใจไทยก็ก้าวกระโดด พรรคอื่นต้องเตะตัดขาเป็นเรื่องธรรมดา วันนี้ต้องยอมรับว่า นโยบายที่ทำยากของรัฐบาลคือนโยบายกัญชา แต่ก็เข้าสภาฯ ได้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของพูดแล้วทำ