เพื่อไทย อัด 8 ปี “ประยุทธ์” สร้างระบบเผด็จการ แผ่อำนาจ กอ.รมน. ถลุงภาษีปชช. จี้ “ประวิตร’” ตรวจสอบ รื้อระบบกาฝาก ไม่ใช่แก้รายกรณีแล้วจบ

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 4 ก.ย. 2565 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีผลการสอบของคณะกรรมการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) การมาช่วยราชการของ ส.ต.ท.หญิง เป็นการขอมาช่วยราชการเอง พิจารณาแล้วเหมาะสม และได้มีคำสั่งให้พ้นหน้าที่โดยมีผลย้อนหลัง ว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าจบ แต่คำถามที่สังคมสงสัย คือ กรณีแบบนี้มีอีกกี่คน และใครควรต้องรับผิดชอบ

น.ส.อรุณี กล่าวว่า กอ.รมน.ใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนอย่างคุ้มค่าหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ประชาชนทุกข์ยากลำบากจากสภาวะเศรษฐกิจแค่ไหน แต่ก็ยังต้องจ่ายภาษีทุกวัน เพื่อให้ผู้มีอำนาจบางคนถลุงเงินภาษีไปในทางที่ไม่เหมาะสม ที่ผ่านมาในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม บริหารประเทศ ได้มีการออกคำสั่งสำนักนายกฯ ที่ 312/2562 แบ่งโครงสร้าง กอ.รมน.ใหม่ 17 หน่วยงาน

โดยให้หน้าที่อำนาจส่วนงาน ศูนย์ประสานการปฏิบัติ กอ.รมน.ภาค-จังหวัด ขึ้นตรงกับ ผอ.กอ.รมน. ส่วนอัตรากำลังให้ ผอ.กอ.รมน.จัดสรรจำนวนตามที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดให้เพียงพอกับความจำเป็น และยังให้หน่วยงานของรัฐให้การสนับสนุนตามที่ได้รับการประสานและร้องขอ

น.ส.อรุณี กล่าวต่อว่า อำนาจของ กอ.รมน.ที่ขยายออกไปอย่างกว้างขวางเช่นนี้ ก่อให้เกิดคำถามว่า กอ.รมน.เข้าไปแทรกแซงการบริหารงานของราชการส่วนภูมิภาคหรือไม่ เพราะมีทั้ง กอ.รมน.ภาคตามพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาค ส่วนในระดับจังหวัด แม้จะมีผู้ว่าฯ เป็นประธานเช่นกฎหมายเดิม แต่ก็จะเพิ่มจังหวัดทหารบก หรือมณฑลทหารบกที่รับผิดชอบพื้นที่จังหวัด โดยแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าฯ ฝ่ายทหาร เพราะทหารพยายามผูกโยงว่าทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับมิติด้านความมั่นคง

น.ส.อรุณี กล่าวอีกว่า แทนที่ กอ.รมน.จะเป็นหน่วยงานที่พึ่งของประชาชน เพราะมีเจ้าหน้าที่อยู่ทุกจังหวัด แต่กลับเป็นหน่วยงานที่เป็นเสมือนดินแดนสนธยา ที่ประชาชนยากจะเข้าถึงและตรวจสอบ กรณีของ ส.ต.ท หญิงคือภาพสะท้อนของสิ่งเหล่านั้น

“วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในตำแหน่งรักษาราชการแทนนายกฯ และเป็น ผอ.กอ.รมน.ด้วย มีอำนาจเต็มมือ ควรต้องตระหนักเร่งสั่งการ ตรวจสอบทั้งระบบ โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นกำลังพลผู้ปฏิบัติงานในอัตราช่วยราชการแบบปีต่อปี ซึ่งจะเป็นกำลังพลส่วนใหญ่ ประกอบด้วย พลเรือน ตำรวจ และทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการทำลายระบบกาฝากทั้งองคาพยพ ไม่ใช่แก้ปัญหาแบบเป็นรายกรณีแล้วจบไป” น.ส.อรุณี กล่าว