หญิงนักพนันสุดแค้น แจ้งจับ 5 ชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจ บุกบ่อนรีดเงิน 1.7 แสน ลั่นเป็นโจรปล้นยังไม่เสียดายเท่าตำรวจเอาไป
สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เวลาประมาณ 17.00 น. ได้มีชายฉกรรจ์ จำนวน 5 คน ขับขี่ รถยนต์กระบะ 4 ประตู ไททันสีขาว หมายเลขทะเบียน 9831 ชัยภูมิ หมวดอักษรหน้าไม่ชัดเจน ขับเข้ามายังบ้านร้าง ไม่มีเลขที่ บริเวณถนนซอย 12 ต.มะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ซึ่งเป็นบ่อนการพนันไพ่ป๊อกแปดป๊อกเก้า โดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธร ภาค 2 มาจับกุมนักพนันที่ลักลอบเล่นการพนันไพ่ป๊อกแปดป๊อกเก้า จนเกิดการเจรจาให้เคลียร์เงินแลกกับการไม่ถูกจับกุม เป็นเงิน 380,000 บาท ที่ในขณะนั้นนักพนันรวม 13 คน รวมเงินได้เพียง 170,000 บาท ชายฉกรรจ์ทั้ง 5 คน จึงตกลงรับเงินจำนวนดังกล่าวแล้วรีบหนีไป
ต่อมาเพียง 5 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 2 และ ตำรวจภูธร สภ.นิคมพัฒนา เข้ามาทำการจับกุมนักพนันทั้งหมด 13 คน เป็นหญิง 11 คน ชาย 2 คน พร้อมของกลางในการเล่นพนัน ส่งตัวดำเนินคดีที่ สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ในข้อหาร่วมกันเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต จนต่อมานักพนันได้ขอเงินจำนวน 170,000 บาท คืนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงมาทราบว่าเงินที่จ่ายไปกับชายฉกรรจ์ทั้ง 5 คนไป 170,000 บาท ทางชุดจับกุมไม่มีส่วนรู้เห็นจึงมั่นใจว่าถูกชายอ้างเป็นตำรวจปล้นตบทรัพย์แน่นอนจึงขอแจ้งความกับตำรวจติดตามชายทั้ง 5 คน มาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 6 พฤษภาคม ร.ต.อ.ดำสลวย สำคัญยิ่ง รองสารวัตร (สอบสวน ) สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง รับแจ้งจาก นางนกเล็ก อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นนักพนันหนึ่งในผู้เล่นที่อยู่ในเหตุการณ์ปล้นบ่อนนิคมพัฒนา ว่าขอดำเนินคดีกับชายทั้ง 5 คน ที่เข้ามาเรียกรับเงินจำนวน 170,000 บาทไป โดยแลกกับการไม่ถูกจับกุมฐานร่วมกันเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อ 1 พฤษภาคม ขอให้ตำรวจติดตามชายทั้ง 5 คนมาดำเนินคดีพร้อมขอให้ตำรวจดูแลความปลอดภัยให้ด้วย
นางนกเล็ก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองทั้งโกรธทั้งแค้นที่ถูกกระทำอย่างชนิดรับไม่ได้ พร้อมเล่าเหตุการณ์จริงในวันถูกชาย 5 คน เข้ามาก่อเหตุตบทรัพย์ปล้นเงินไป 170,000 บาท แล้วเพียง 5 นาที ก็มาถูกจับดำเนินคดี
นางนกเล็ก เผยถึงความในใจว่าทำอย่างนี้มันเหยียบย่ำหัวใจกันเกินไป หากเป็นโจรมาปล้นจะไม่เสียดายเงินที่จ่ายไป แต่ถ้าเป็นตำรวจรู้กันถือว่าไม่ถูกต้อง หากผิดก็จับไปอย่ามาทำอย่างนี้ บีบบังคับเอาเงินกันชัดๆ รวมถึงในรอบที่ 2 ที่ตำรวจจริงมาจับยังมารูดซิปเงินในกระเป๋ามาเป็นของกลางอีกด้วย ทั้งๆ ที่ในขณะนั้นไม่มีใครเล่นการพนันกันแล้วนักพนันทุกคนกำลังเตรียมตัวแยกย้ายกันกลับ ซึ่งสิ่งที่กล่าวมาตำรวจยังถ่ายภาพและคลิปวิดีโอไว้ซึ่งตำรวจควรเอาคลิปดังกล่าวมาแสดงให้ประชาชนได้ดูว่าข้อเท็จจริงคืออะไร
ด้านนายธีรสิทธิ์ อายุ 56 ปี ผู้อยู่ในเหตุการณ์ขณะชายฉกรรจ์เข้ามาปล้นทรัพย์ เล่าว่า การทำอย่างนี้ไม่มีใครเขาทำกันที่รับเงินไปแล้วยังย้อนรอยมาจับ ซึ่งในวันนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ยังโชว์บัตรตำรวจให้ดูจึงคาดว่าชายทั้ง 5 คน ที่ปล้นทรัพย์ไปน่าจะเป็นตำรวจจริง
ขณะเดียวกันมีผู้สื่อข่าวสำนักหนึ่งได้ต่อสายโทรศัพท์ถึง พ.ต.ท.อดิเรก โปธิปัน นายเวรผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พูดคุยกับ นางนกเล็ก ที่หวั่นว่าการดำเนินคดีกับชาย 5 คน กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรมกลายเป็นมวยล้มต้มคนดู ซึ่งในส่วนนี้ได้รับการยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยในขณะนี้ทางตำรวจกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
สำหรับเรื่องดังกล่าว พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รรท.ผบก.สส.ภาค 2 ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดกับสื่อมวลชนหลายสำนักไปแล้ว ว่า บ่อนการพนันแห่งนี้มีลักษณะเป็นบ่อนวิ่ง ที่จะย้ายสถานที่ไปตามพื้นที่ต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดระยอง เบื้องต้นทราบว่า เป็นบ่อนของ นาย ต. และ นาง จ. เจ้าพ่อ เจ้าแม่บ่อนพนันเมืองระยอง ซึ่งเคยถูกจับกุมในพื้นที่ สภ.บ้านฉาง ระยอง มาก่อนหน้านี้ และก่อนจะนำกำลังตำรวจชุดสืบสวน ภาค 2 เข้าจับกุม ในเขตพื้นที่ สภ.นิคมพัฒนา ครั้งนี้ ทาง พ.ต.อ.บัญชา คล้ายน้อย ผกก.2 สส.ภ.2 ได้รายงานให้ทราบก่อนล่วงหน้าแล้วว่ามีการลักลอบเล่นการพนันในลักษณะบ่อนวิ่ง จึงได้สั่งการให้เข้าดำเนินจับกุม โดยแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่รับผิดชอบเข้าร่วมจับกุมในครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตามชาย 5 คน ที่รับเงินไป 170,000 บาท จะเป็นตำรวจจริงหรือปลอมคงต้องรอคำยืนยันจากทางตำรวจ โดยแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ให้ข้อมูลว่าขณะนี้ชายทั้ง 5 ทางตำรวจรู้หมดแล้วว่าเป็นใครซึ่งต้องรอการแถลงถึงผลการสืบสวนสอบสวนว่าจะออกมาว่าอย่างไร หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป