จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ “คณะหลอมรวมประชาชน” ประกาศปักหลักลานคนเมืองกรุงเทพฯ 4 วัน จับตา “ประยุทธ์” อยู่หรือไป 24 นี้ ฮึ่มบุกค้างคืนทำเนียบ

วันที่ 21 ส.ค.2565 ที่ลานคนเมืองกรุงเทพมหานคร นายจตุพร พรหมพันธุ์ ในฐานะแกนนำคณะหลอมรวมประชาชน แถลงว่า เวลานี้ถือเป็นระยะเวลาก่อนโค้งสุดท้ายของการเป็นนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ครบ 8 ปี

โดยเมื่อเช้านี้บรรดาน้องๆจากกลุ่มคณะราษฎรและเครือข่ายก็ออกมาพูดในเรื่องดังกล่าว ซึ่งพวกตนต่างก็เห็นพ้องซึ่งไม่มีเหตุผลอะไรที่เห็นเป็นอย่างอื่น ไม่ว่าประเด็นเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภาลาออกให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินก่อนวันที่ 24 ส.ค. ให้แก้ไขมาตรา 272 ที่ให้อำนาจวุฒิสภาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งคณะประเทศไทยต้องมาก่อน และคณะหลอมรวมประชาชนได้นัดหมายกับประชาชนโดยการจองลานคนเมืองกรุงเทพฯไว้ 4 วัน

” ซึ่งขอเรียนไปถึง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ว่าสบายใจได้ พวกผมจะไม่ค้างคืนที่ลานคนเมืองในช่วงระยะเวลา 4 วันนี้ เพราะสถานที่จะค้างคืนก็คือทำเนียบรัฐบาล”

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ทั้งหมดที่คณะหลอมรวมประชาชนได้พยายามหยิบยกทั้งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2551 จนถึงรัฐธรรมนูญ 2561 เพื่ออธิบายว่ากฎเกณฑ์กติกาทั้งหมดนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งคนมากำหนดกฎเกณฑ์ทั้งสิ้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นถ้าเราได้ยินนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ก็เคยพูดต่างกรรมต่างวาระบางครั้งว่า มีเรื่องขรุเข้ามา แต่มาตรา 158 ที่กำหนดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นกี่ครั้งก็ตามแต่จะเกิน 8 ปีไม่ได้ เป็นเรื่องที่ผ่านที่ผ่านประชามติ คณะหลอมรวมประชาชนยังยืนยันว่าการนับวันของการเป็นนายกรัฐมนตรีมีวันเดียวเท่านั้น คือวันที่ 24 ส.ค. 2557

เมื่อถามว่า วันที่ 24 ส.ค.นี้ จะเป็นการชุมนุมยกระดับเพื่อขีดเส้นใต้วาระการดำรงตำแหน่งของพล.อ.ประยุทธ์ เลยใช่หรือไม่

นายจตุพร กล่าวว่า คณะหลอมรวมประชาชนเราไม่ต้องการกดดันศาล ไม่ต้องการกดดันแม้กระทั่งพล.อ.ประยุทธ์เอง แต่เรากดดันประชาชนด้วยกันเองว่าทนให้พล.อ.ประยุทธ์ละเมิดกฎหมายได้อย่างไร เพราะฉะนั้น การดำรงอยู่ของพล.อ.ประยุทธ์ ละเมิดรัฐธรรมนูญโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั้น เป็นการท้าทายมโนธรรมสำนึกของคนไทย วันที่ 22-24 ส.ค.

ผมเชื่อว่าวิกแตกและสถานการณ์ที่มันเลยเถิดนั้น วันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับบ้านไม่ถูกและหาทางลงไม่เจอ เพราะฉะนั้น ระยะเวลาของพล.อ.ประยุทธ์ ต้องคิดว่าจะต้องจัดการอย่างใดอย่างหนึ่ง หลังจากเที่ยงคืนของวันที่ 23 ส.ค. สถานการณ์ของประเทศจะไม่เหมือนเดิมอีกเลย

ถามอีกว่า วางแผนอย่างไรในการที่จะเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล เพราะตำรวจปิดล้อมได้ทำการปิดเส้นทางไว้ นายนิติธน ระบุ ให้ตำรวจไปออกประกาศว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถเดินทางเข้าทำเนียบได้ เพราะไม่มีสถานะเป็นนายกฯตามกฎหมายแล้ว ถ้าไม่อยากให้ไปทำเนียบก็ไปจัดการกับ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่จัดการกับประชาชน

เมื่อถามอีกว่า เจตนารมณ์ของนายนิติธรคือต้องการเข้าไปทำเนียบใช่หรือไม่ นายนิติธร กล่าวว่า ‘ประยุทธ์อยู่ไหนผมก็ไปที่นั่น’

นายจตุพร ยังตอบคำถาม การชุมนุมจะสามารถจบภายใน 4 วันหรือไม่ ว่าสถานการณ์จะเป็นตัวกำหนด เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่าพล.อ.ประยุทธ์นั้นคำว่า เล่ห์ ลับ ลวง พราง ไม่ธรรมดา มิเช่นนั้น ไม่สามารถทู่ซี้อยู่มาถึง 8 ปี เพราะฉะนั้น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชนว่ามีความพร้อมหรือไม่ คณะหลอมรวมประชาชนก็พร้อมล่วงหน้าอยู่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ย่อมรู้ดีว่าเหตุวิกฤติที่กำลังจะเกิดนั้นมาจากตัวเอง มาจากการไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่ตัวเองทำการฉีกเมื่อปี 50 เขียนขึ้นใหม่ปี 60 และละเมิดเสียเอง

ต่อคำถามที่ว่า หากไม่เป็นไปตามคาดหวังคือวันที่ 24 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ไม่ออกจากตำแหน่งนายกฯ มีการประเมินไว้หรือไม่ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายจตุพร กล่าวว่า ยิ่งพล.อ.ประยุทธ์อยู่จะนำพาไปเกิดวิกฤต นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ดังนั้นประยุทธ์จะอยู่หรือไป คณะหลอมรวมประชาชนก็ยังจะต้องทำหน้าที่ ดังนั้นเราไม่สนใจผลลัพธ์ในเรื่องนี้เพียงแต่ว่าได้ส่งสัญญาณเตือนไปว่า คุณจะกลายเป็นต้นเหตุของวิกฤต และวิกฤตนี้คุณไม่สามารถรับมือได้อีกต่อไป