แม่ค้าฉุนจัด ให้กินอิ่มยังเนรคุณ ชายเร่ร่อนลักจยย.1.2แสนไปขาย1หมื่น ซื้อยาเสพ สุดโมโหถึงขั้นถอดรองเท้าตบหน้า ไม่คิดไม่ฝันชายเร่ร่อนจะตอบแทนแบบนี้

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 19 ส.ค.2565 ร.ต.อ.วิฆเนตร ซื่อตรง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งพบชายต้องสงสัยเป็ยคนร้ายก่อเหตุลักรถจยย.พ่วงข้าง ที่หน้าห้องเช่าริมถนนศรีชมชื่น ต.หมากแข้ง อ.เมือง เมื่อกลางดึกวันที่ 21 ก.ค.2565 โดยชายต้องสงสัยคนดังกล่าว เดินมาขอข้าวกิน ที่ร้านสเต็ก ซอยพรมประกาย ถ.ศรีชมชื่น เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงนำกำลังออกไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบนายสมเกียรติ อายุ 62 ปี เจ้าของร้านนายธงลาดหน้า ถนนศรีชมชื่น เขตเทศบาลนครอุดรธานี และเป็นเจ้าของรถจยย.พ่วงข้างที่หายไป ชี้ให้ตำรวจจับชายเร่ร่อนสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำลาย ระบุว่าเป็นคนร้ายที่ลักรถจยย.ไป พอเห็นตำรวจชายต้องสงสัยเกิดตกใจ ถอดรองเท้าแล้วรีบวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าละเมาะหลังร้านสะดวกซื้อ

ตำรวจได้วิ่งไล่ติดตามและค้นหาประมาณ 30 นาทีแต่ไม่พบตัว จึงทำทีถอนกำลังเพื่อหลอกล่อ และให้นายสุดสาคร บุสดี ผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานและผู้เสียหาย ดักซุ่มอยู่ เวลาผ่านไม่นานชายคนดังกล่าวก็เดินออกมา เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวไว้ทราบชื่อคือนายอ๊อด อายุ 45 ปี เป็นคนเร่ร่อน ขณะเดียวกันนางสุมาลี อายุ 41 ปี แม่ค้าราดหน้าและเป็นหลานสาวนายสมเกียรติ เจ้าของรถคันดังกล่าว เมื่อมาพบเห็นนายอ๊อด ถึงกับโมโหสุดขีดถอดรองเท้าเข้าไปตบหน้านายอ๊อด 4 -5 ครั้ง

นางสุมาลี กล่าวด้วยความไม่พอใจว่า นายอ๊อดเนรคุณ ที่ผ่านมานายอ๊อดเคยมาขอข้าวกินที่ร้าน และก็เคยให้ข้าวนายอ๊อดกินหลายครั้งด้วยความสงสาร ไม่คิดไม่ฝันว่านายอ๊อดจะมาเนรคุณ ตอบแทนด้วยการลักรถราคา 120,000 บาทไปขายเพียง 10,000 บาท เพื่อเอาเงินไปหาซื้อยาบ้ามาเสพ

จากการสอบสวนนายอ๊อด ให้การรับสารภาพว่า ตนเองไม่มีงานทำ เดินขอข้าวตามร้านอาหารกินประทังชีวิตไปวันๆ และในวันดังกล่าวได้ก่อเหตุลักรถจยย.แบบพ่วงข้าง ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นบีเอ็น 175 อี สีดำแดง ทะเบียน 1กช 2429 อุดรธานี ของร้านนายธงลาดหน้าไปจริง แล้วจากนั้นก็นำรถไปขายได้เงิน 1 หมื่นบาท จึงนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ พอเงินหมดก็กลับมาเร่ร่อนในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ขอข้าวตามร้านอาหารกินอีก กระทั่งมาถูกตำรวจจับได้

เบื้องต้นตำรวจควบคุมตัวนายอ๊อดไปสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ก่อนควบคุมตัวนายอ๊อดไปตรวจยึดรถที่ลักไปขายที่ อ.หนองวัวซอ คืนมา เป็นของกลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป