แม่ใจสลาย สูญเสียลูก-หลาน เหตุกระบะชนเก๋ง ซ้ำโซเชียลต่อว่าลูกเขย ทำไมเอาฝั่งลูกเมียเข้าชน

Home » แม่ใจสลาย สูญเสียลูก-หลาน เหตุกระบะชนเก๋ง ซ้ำโซเชียลต่อว่าลูกเขย ทำไมเอาฝั่งลูกเมียเข้าชน


แม่ใจสลาย สูญเสียลูก-หลาน เหตุกระบะชนเก๋ง ซ้ำโซเชียลต่อว่าลูกเขย ทำไมเอาฝั่งลูกเมียเข้าชน

แม่ใจสลาย สูญเสียลูก-หลาน เหตุกระบะชนเก๋ง ซ้ำโซเชียลต่อว่าลูกเขย ทำไมเอาฝั่งลูกเมียเข้าชนแทน คนขับกระบะ ให้ปากคำรับดื่มมาจริง

กรณีรถเก๋งและรถกระบะเฉี่ยวชนกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อเวลา 17.39 น. วันที่ 30 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา บนถนนเส้นพิษณุโลก-กำแพงเพชร บริเวณโค้งบ้านแหลมเจดีย์ หมู่ 8 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 11 คน เสียชีวิต 2 คน ซึ่งเป็นแม่ลูกกันที่นั่งโดยสารมากับรถเก๋ง โดยมี นายวีรนันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี เป็นคนขับ

โดย นายวีรนันท์ โพสต์เรื่องราวความสูญเสียภรรยาสุดที่รักและลูกสาววัยกำลังน่ารัก สร้างความเศร้าสะเทือนใจน่าเวทนาสงสารเป็นอย่างมาก พร้อมกับขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวด้วย ส่วนรถกระบะคู่กรณีเป็นรถขนคนงานนั่งมาด้านท้ายมาด้วย ล่าสุดเสียชีวิตที่โรงพยาบาลบางระกำ 2 ราย

เมื่อวันที่ 3 ส.ค.65 ที่วัดทองหลาง หมู่ 1 ต.มะขามสูง อ.เมืองพิษณุโลก สถานที่ตั้งศพของ น.ส.จารุพร (สงวนนามสกุล) และ ด.ญ.จารุนันท์ (สงวนนามสกุล) ลูกสาว อายุ 3 ขวบ โดยมี นางมานิตย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า วันเกิดเหตุ นายวีรนันท์ ลูกเขย พร้อม น.ส.จารุพร และ ด.ญ.จารุนันท์ อายุ 3 ขวบ หลานสาว พาครอบครัวไปเยี่ยมปู่กับย่าที่ อ.บางระกำ

โดยขับออกมาซื้อกับข้าวเพื่อนำไปกินกับครอบครัว ขณะถึงจุดเกิดเหตุรถกระบะขับมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชนรถจักรยานยนต์ ก่อนเสียหลักพุ่งมาชนกับรถเก๋งของลูกเขย ทำให้ลูกสาวและหลานสาวเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที

ส่วนรถกระบะคู่กรณี มีผู้บาดเจ็บหลายราย และมีผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่ทางตำรวจไม่ได้ตรวจแอลกอฮอล์คนขับรถคู่กรณีในจุดเกิดเหตุทันที ว่ามีอาการมึนเมาขณะขับขี่ด้วยหรือไม่

ตอนนี้ทางลูกเขยสภาพจิตใจย่ำแย่ เพราะว่ามีเสียงต่อว่าทางสื่อโซเชียลเชิงว่าทำไมถึงเอาฝั่งลูกเมียเข้าชนแทนตัวเอง ซึ่งเหตุการณ์ขณะนั้นเกิดขึ้นรวดเร็วมากและเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.65) จะมีพิธีฌาปนกิจศพหลานสาวก่อน และช่วงบ่ายจะฌาปนกิจลูกสาวต่อไป ทางครอบครัวอยากจะขอความเป็นธรรมให้กับคนตายด้วย เพราะลูกสาวเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เพราะทางฝั่งคู่กรณีเองยังไม่ติดต่อมาหรือรับผิดชอบอะไรเลย

ด้าน ร.ต.อ.พงษ์ศิริ อำไพพิศ ร้อยเวร เจ้าของคดี สภ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ได้เชิญตัว นายอุดร (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี คนขับรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน ผข 6190 พิษณุโลก คู่กรณี มาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมชี้ร่องรอยการเฉี่ยวชน มีตำรวจวิทยาการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 เบื้องต้นนายอุดร คู่กรณี ให้การว่าเหตุการณ์ที่เกิดเหตุขึ้นตนเองขับรถมาตามปกติ ความเร็วประมาณ 70 กม./ชม.ตำรวจตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แล้วได้ 45 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่เกินที่กฎหมายกำหนด

ด้าน นายอุดร กล่าวว่า ทางฝั่งตนบาดเจ็บสาหัส 8 คน และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2 คน ส่วนตนเองบาดเจ็บเล็กน้อย ยอมรับว่าดื่มแอลกอฮอล์หลังเลิกงานมานิดหน่อย ตนอยากจะกล่าวขอโทษกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ตนอยากจะไปร่วมงานศพแต่ฝั่งครอบครัวคู่กรณีคงโกรธตนอยู่

ส่วนฝั่งลูกน้องของตนเองที่เสียชีวิต ได้ไปดูแลเยียวยาช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ