ตามหาเจ้าอาวาส อ้างไปตามช่าง หอบเงินผ้าป่าสร้างเมรุ 7 แสน หายเข้ากลีบเมฆ ชาวบ้านเศร้าไว้ใจและศรัทธาคนผิด
(3 พ.ค.64) ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการวัด และตัวแทนชาวบ้านกว่า 10 คน ได้มารวมตัวกันที่สำนักสงฆ์บ้านหนองปรือ-โคกตะคร้อ ต.ชุมแสง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เพื่อเรียกร้องให้ พระเครือวรรณ อายุ 64 ปี ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสของสำนักสงฆ์ดังกล่าว นำเงินจำนวน 70,000 บาท ที่ญาติโยมร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่าสมบทสร้างเมรุเผาศพกลับมาคืน หลังจากที่เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2564 ที่ผ่านมา หลวงพ่อบอกให้กรรมการวัดเบิกเงินมาให้เพื่อจะนำไปจ่ายค่าช่างและซื้ออุปกรณ์ก่อสร้างเมรุ แต่พอได้เงินแล้วกลับบอกกรรมการวัดว่าจะหาหมอที่ รพ.โนนสุวรรณ แล้วจะแวะตามช่างมาด้วย แต่กลับหายไปพร้อมเงิน 70,000 บาท
จนถึงวันนี้เกือบสัปดาห์แล้ว ยังไม่กลับมาวัดโทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ จึงเชื่อว่าเจ้าอาวาสน่าจะหนีไปพร้อมเงิน 70,000 ที่ญาติโยมร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่าสร้างเมรุ ทางคณะกรรมการวัดจึงได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.นางรอง ให้ช่วยติดตามตัวเจ้าอาวาส เพื่อนำเงินมาคืนให้กับทางวัด แต่หากเจ้าอาวาสไม่นำเงินมาคืนก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย
นางสมศรี อายุ 71 ปี กรรมการวัด และเป็นประธานดำเนินงานจัดทอดผ้าป่า เล่าว่า ก่อนหน้านี้สำนักสงฆ์ดังกล่าวยังไม่มีเจ้าอาวาส จึงได้ไปนิมนต์พระเครือวรรณ ซึ่งตอนนั้นจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าโนนสุวรรณ ให้มาเป็นเจ้าอาวาสที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาพระเครือวรรณ ก็ปฏิบัติดีช่วยชาวบ้านพัฒนาวัดเป็นอย่างดี ชาวบ้านก็อุ่นใจที่มีพระดีๆ มาอยู่ กระทั่งช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ทางวัดได้จัดทอดผ้าป่าเพื่อหาปัจจัยมาสมทบสร้างเมรุ ก็มีญาติโยมร่วมทำบุญทอดผ้าป่าได้เงิน 120,000 บาท โดยเงินจำนวนนี้ได้ถวายส่วนตัวให้เจ้าอาวาส 10,000 บาท หักค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็เหลือเงิน 70,000 บาท เก็บไว้สำหรับจ้างช่างและซื้ออุปกรณ์ก่อสร้างเมรุ โดยได้ฝากเข้าบัญชีธนาคาร ต้องเบิก 2 ใน 3
กระทั่งวันที่ 26-27 เม.ย. มีโยมคนหนึ่งที่ อ.โชคชัย นำรถกระบะสี่ประตูมาถวายให้เจ้าอาวาสใช้ประจำวัด ญาติโยมและชาวบ้านก็เห็นว่าดีเพราะเวลาไปทำธุระ หรือไป รพ.ก็จะได้สะดวก จากนั้นวันที่ 28 เม.ย. เจ้าอาวาสได้บอกให้กรรมการวัดไปเบิกเงินเจ็ดหมื่นบาทมาให้ โดยอ้างว่าจะนำเงินไปจ่ายค่าช่าง และซื้ออุปกรณ์ก่อสร้างเมรุ ด้วยความไว้ใจหลวงพ่อจึงเบิกเงินมาให้
จากนั้นวันที่ 29 เม.ย. หลวงพ่อบอกว่าจะไปหาหมอที่ รพ.โนนสุวรรณ และไปตามช่างด้วย แต่ก็ไม่กลับมาวัดอีกเลย ญาติโยมเป็นห่วงพากันออกตามหา แต่กลับพบข้อมูลว่าเจ้าอาวาสขับรถยนต์ที่โยมถวายให้ใช้จอดทิ้งไว้ที่บริเวณศาลหลักเมืองในเขต อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา มีรอยเฉี่ยวชน แต่ตรวจสอบแล้วไม่พบผู้บาดเจ็บ พอไปสอบถามที่ รพ.โนนสุวรรณ ตามที่เจ้าอาวาสอ้างว่าจะไปหาหมอก็ไม่พบ แล้วก็ไม่มีเห็นช่างมาทำการก่อสร้างเมรุเลย จากพฤติกรรมจึงเชื่อว่าหลวงพ่อน่าจะหนีไปพร้อมเงิน จึงอยากให้หลวงพ่อนำเงินมาคืนให้กับทางวัด เพื่อก่อสร้างเมรุตามจุดประสงค์ของญาติโยมที่ได้ร่วมกันทำบุญ แต่หากไม่นำเงินมาคืนก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย
ด้าน นายคเน พลประสิทธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า ตนในฐานะผู้นำชุมชนก็รู้สึกเสียใจที่เจ้าอาวาสซึ่งชาวบ้านเคารพศรัทธาจะมีพฤติกรรมแบบนี้ ทั้งที่ตอนไปนิมนต์มาอยู่ก็หวังว่าจะร่วมกันพัฒนาวัดให้เจริญ แต่ตอนนี้ชาวบ้านต่างก็หมดศรัทธา ที่สำคัญเงินที่เอาไปก็เป็นเงินจากความศรัทธาของชาวบ้าน ก็อยากวอนเจ้าอาวาสนำเงินมาคืนวัด เพราะไม่อยากเอาผิด