FootNote รากฐานของพรรค ตระกูล “รวม” เป้า ประยุทธ์ จันทร์โอชา “ไปต่อ”
มีความมั่นใจเป็นอย่างสูงจาก “ภายใน” พรรคประชาธิปัตย์ถึงแนวโน้มที่จะมี “เลือด” ไหลออกจากพรรคประชาธิปัตย์อย่างไม่ขาดสาย
ไม่เพียงเพราะปรากฏการณ์โหวตสวนมติในห้วงแห่งญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
หากที่สำคัญเป็นอย่างมากยังเป็นการเคลื่อนไหวอันมาจากพรรคการเมืองซึ่งมีคนในระดับ “แกนนำ” เดิมของพรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญ
ไม่ว่าจะเป็นการดำรงอยู่ก่อนหน้านี้แล้วอย่างพรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่ว่าจะเป็นการดำรงอยู่ของพรรคกล้า ไม่ว่าจะเป็นการดำรงอยู่ของพรรคไทยภักดี และการเข้าไปอยู่ในตำแหน่งระดับรองหัวหน้าพรรคอย่างพรรคสร้างอนาคตไทย และการเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในพรรครวมไทยสร้างชาติ
อย่าได้แปลกใจที่บรรดาพรรคเกิดใหม่เหล่านี้ แม้จะแยกตัวออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่วงจรใหม่ในทางการเมืองก็วิ่งวนอยู่โดยรอบกับกลุ่มที่ยึดครองอำนาจในปัจจุบัน นั่นก็คือ แนวโน้มที่จะหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
อย่าลืมบทบาทของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในห้วงแห่งการเคลื่อนไหวก่อรูปขึ้นของมวลมหาประชาชนในนาม “กปปส.” ดำเนินการ “ชัตดาวน์” กรุงเทพมหานคร นั่นคือบทบาทอย่างสำคัญในการปูทางและสร้างเงื่อนไขให้กับรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นรัฐประหารอันเป็นเหมือนกระดานหกให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ทะยานสู่อำนาจในทางการเมือง
คำประกาศอันแน่วแน่และมั่นคงไม่ว่าจะเป็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ว่าจะเป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค คือไม่เห็นใครเหมาะสมเท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา การเกิดขึ้นของพรรคหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงเป็นทางเลือกและก่อให้เกิดสภาพเลือดไหลในพรรคประชาธิปัตย์
สภาพที่กลุ่ม นายณัฐพล ทีปสุวรรณ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายสกลธี ภัททิยกุล เข้าหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเข้าไปมีส่วนในพรรคพลังประชารัฐจึงเป็นทางเลือกหนึ่ง เหมือนกับทางเลือกของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในวันนี้
การเกิดขึ้นของพรรครวมพลังประชาชาติไทย การเกิดขึ้นของ พรรครวมไทยสร้างชาติ จึงเท่ากับเป็นการส่งสัญญาณ “รวม” เป็นการรวมพลังเพื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ “ไปต่อ”