ชัชชาติหารือบช.น. เห็นควรตั้งทีมย่อย ระหว่าง 2 หน่วยงาน ดูแลการจราจรโดยตรง แลกเปลี่ยนข้อมูล เร่งแก้ไขทั้งกล้อง ยาเสพติด เตรียมความพร้อมเอเปค

วันที่ 1 ส.ค.2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการประชุมหารือร่วมกับพล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. โดยในเรื่องจราจร เห็นควรให้มีการจัดตั้งคณะทำงานย่อยร่วมกันระหว่างกทม.และตำรวจเพื่อดูแลเรื่องการจราจรโดยตรง ซึ่งวันนี้มีการหารือ 8 เรื่องด้วยกัน

เรื่องแรกการจราจร กทม.จะรับผิดชอบดูแลบนฟุตบาททางเดิน สัญญาณไฟ และเรื่องกล้อง CCTV ส่วนทางด้านตำรวจตำรวจดูบนท้องถนนและการควบคุมสัญญาณไฟ โดยจะนำเทคโนโลยีมาใช้เกี่ยวกับการควบคุมไฟจราจร และทางตำรวจจะระบุจุดเสี่ยงอันตราย จุดที่รถติด และจุดที่มีน้ำท่วมขัง ซึ่งพิกัดทั้งหมดทางตำรวจจะมีข้อมูลที่ละเอียด ส่วนทางกทม.จะรีบดำเนินการแก้ไข

เรื่องที่ 2 คือ ด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และร่างกายของประชาชน หารือในเรื่องการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนให้ดีขึ้น โดยได้มีการพูดถึงการสำรวจปัญหาในพื้นที่กรุงเทพฯ พบปัญหาเรื่องแสงสว่าง 172 จุด ไม่มีกล้อง CCTV 129 จุด ปัญหาจุดอับ จุดอันตรายตามตรอก ซอก ซอย 18 จุด

เรื่องที่ 3 ยาเสพติด ด้านยาเสพติด หารือในเรื่องการลดการแพร่กระจายของยาเสพติดอื่น ๆ ในพื้นที่ ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร มีศูนย์คัดกรอง 20 แห่ง ซึ่งเปิดให้บริการเพื่อรองรับการนำส่งผู้ต้องสงสัยว่าเสพยาเสพติดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ปัญหาที่พบคือศูนย์ฯ ส่วนใหญ่เปิดทำการเฉพาะวันจันทร์-วันศุกร์ มีเพียง 8 แห่ง ที่เปิดในวันเสาร์-อาทิตย์ โดยอาจจะมีการหาแนวทางในการขยายเวลาให้เหมาะสม และนำเครือข่ายของชุมชนมาเป็นตัวร่วมในการต่อต้านยาเสพติด

ส่วนการรักษาความปลอดภัย ทั้งร่างกายและทรัพย์สินประชาชน จะเพิ่มมาตรการต่างๆ โดยจะมีการติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่ม ทางตำรวจเองก็ได้มีข้อมูลว่าพื้นที่ไหนที่ควรจะมีกล้องเพิ่มจากที่เดิมมีอยู่ 50,000 ตัว โดยจะเอาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยวิเคราะห์ด้วย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาการทำงานของเจ้าหน้าที่และได้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งมีการคัดเลือกอาสาสมัครชุมชนเพื่อเป็นเครือข่ายในการช่วยดูแลชุมชนให้เข้มแข็ง ซึ่งจะมีคณะทำงานย่อยอีกชุดหนึ่ง

เรื่องที่ 4 ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หารือในเรื่องการพัฒนา software การใช้ ai เพื่อให้การใช้กล้อง CCTV มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการประสานงาน การแลกเปลี่ยนข้อมูล Big Data ระหว่างหน่วยงาน เรื่องที่ 5. ด้านการชุมนุมเรียกร้อง และความมั่นคง หารือในเรื่องการจัดสถานที่ชุมนุมให้มีความเหมาะสม และการควบคุมการชุมนุมให้สามารถแสดงออกตามสิทธิและเสรีภาพภายใด้กรอบกฎหมายกำหนด

เรื่องที่ 6 ด้านเศรษฐกิจ หารือในเรื่องการอำนวยความสะดวกสถานบริการ ธุรกิจบันเทิงต่าง ๆ ตลอดจนเรื่องพื้นที่โซนนิ่งในเขตกรุงเทพมหานคร โดยไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือมีผลกระทบต่อประชาชน

เรื่องที่ 7 ด้านการประชุม APEC ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 – 19 พ.ย. กทม.เป็นเจ้าภาพร่วมกับอีกหลายหน่วยงาน ทั้งนี้ จากการข่าวที่คาดว่าน่าจะมีความไม่สงบเรียบร้อย ทางตำรวจจึงมีการเตรียมความพร้อมและเสนอแนะให้มีการตั้งอาสาสมัครพิทักษ์เมือง โดยจัดอบรมผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น พนักงานรักษาความสะอาด วินมอเตอร์ไซค์ รปภ. เพื่อช่วยเป็นหูเป็นตา

เรื่องที่ 8 ด้านการใช้ Traffy Fondue สำหรับแจ้งเหตุต่าง ๆ ทางตำรวจจะเข้ามาร่วมด้วย เพื่อให้การแก้ปัญหาต่าง ๆ ไร้รอยต่อ ซึ่งในกรุงเทพมหานครมี สน. จำนวน 88 แห่ง

ที่มา มติชนออนไลน์