ปชป.เมิน ภท.โวกวาดส.ส.เมืองชาละวัน ยกจังหวัด นราพัฒน์เชื่อคนพิจิตรดูที่ผลงาน ขยี้ปมกัญชาเสรี ยังไม่เคลียร์
เมื่อวันที่ 31 ก.ค.นายนราพัฒน์ แก้วทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคเหนือ กล่าวถึงการเปิดตัวผู้สมัคร จ.พิจิตร ของพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศยกจังหวัด ว่า มีคนมาเสนอตัวช่วยพัฒนาจ.พิจิตร ก็ดี แต่ขอให้มาแบบจริงจัง เพราะเห็นปราศรัยว่าจะให้งบประมาณเกี่ยวกับการท่องเที่ยว 500 ล้านบาท ขอปีนี้เลยได้หรือไม่ ไม่ต้องรอหลังเลือกตั้ง เพราะถ้าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ ส.ส.ก็ไม่ได้งบใช่หรือไม่
และวันนี้พรรคภูมิใจไทยก็ดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวฯอยู่แล้ว ถ้าสามารถทำได้เลยก็จะเป็นประโยชน์ รวมไปถึงการปราศรัยว่าจะเอากัญชามาเป็นพืชเศรษฐกิจให้ประชาชน คนพิจิตรไม่ได้ค้านที่จะเอากัญชาไปใช้ทางการแพทย์ แต่กังวลและห่วงว่าลูกหลานจะไปติดกัญชา หรือถูกจับจะทำอย่างไร ตรงนี้ยังไม่มีวิธีแก้ปัญหา ซึ่งคนพิจิตรไม่ตอบรับ
ส่วนเรื่องการเมืองก็เข้าใจทุกพรรคคต้องพยายามเสนอตัวให้ประชาชนเลือก แต่ตนก็เชื่อมั่นในคนพิจิตร ว่าดูผลงาน ดูความใกล้ชิดพี่น้องประชาชน ไม่ใช่จะมาทุบกันตอนใกล้เลือกตั้ง เพราะชาวพิจิตรมีบทเรียนมาแล้ว ดังนั้นเราจึงไม่กังวล เราก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ประชาชนจะให้คำตอบว่าชอบการเมืองแบบไหน แบบระยะยาวหรือแบบใกล้เลือกตั้ง
ขณะนี้ชาวพิจิตรตื่นตัวเรื่องการเมืองกันมาก โดยดูว่ามาแบบวูบแล้วหายไป หรืออยู่ติดกับพื้นที่ โดยเฉพาะนายไพฑูรย์ แก้วทอง ซึ่งเป็นราษฎรอาวุโส เป็นพ่อพระของคนพิจิตร อย่างน้อยก็เป็นที่พึ่งของคนพิจิตรได้ แม้จะวางมือทางการเมืองแล้ว แต่ก็ยังเป็นที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์อยู่ ก็ต้องช่วยสนับสนุนแนวทางของพรรค ซึ่งมีนโยบายที่ตอบโจทก์และยั่งยืนต่อประชาชน เชื่อว่าประชาธิปัตย์จะกลับมายิ่งใหญ่ได้
เมื่อถามว่า จ.พิจิตร หวังไว้กี่เขต ภูมิใจไทยประกาศยกทั้งจังหวัด นายนราพัฒน์ กล่าวว่า ในพิจิตรมีทั้งหมด 3 เขต เราวางตัวผู้สมัครไว้แล้วทั้ง 3 เขต ขณะนี้เน้นไปที่เขต1และเลข2 เพราะเป็นพื้นที่ที่เราทำงานอยู่แล้ว เขต1 เป็นฐานเสียงเดิมของตน ก็ถือว่าเป็นฐานที่มั่นของประชาธิปัตย์ สวนเขต2 เป็นพื้นที่ที่มุ่งมั่นและเป้าหมาย เพราะเป็นเขตที่ค่อนข้างลำบาก ไม่มีระบบชลประทาน ซึ่งไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ตนจึงทุ่มเทเพื่อให้มีความเจริญเทียบเท่าเขต 1 ส่วนเขต 3 ไม่ใช่ไม่สำคัญ เพราะถ้ามีโอกาสเราก็ต้องหวังเขต3 ด้วย แต่หลักๆขอเขต 1กับเขต2 ก่อน