โฆษกเพื่อไทย จี้ป.ป.ช.เร่งสืบข้อเท็จจริงเอาผิด คนรับกล้วย หลังศึกซักฟอก ซัดอนาคตการเมืองดับวูบแล้ว ชี้ทั้งหมดเป็นผลไม้พิษจาก รธน.60
เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2565 น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ท้ายที่สุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และนั่งร้านรวม 11 คน จะอยู่รอดปลอดภัยในสภา แต่ศรัทธาของประชาชนหมดสิ้นแล้ว
จากข้อมูลที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เปิดโปงข้อมูลส่อทุจริตในหลายประเด็น เช่น กรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ เกี่ยวข้องทุจริตถุงมือยางภาค 2 วงเงิน 2,000 ล้าน ที่ควรถูกของป.ป.ช. อายัด แต่ถูกเบิกออกยักย้ายถ่ายเทหนี, กรณีโอนหุ้นออกจากบริษัทเอกชนของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่เคยถือหุ้นอยู่ มีหลักฐานมีพิรุธ ไม่น่าเชื่อถือ, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่บกพร่องไม่ดูแลภัยแก๊งอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ แต่งตั้งคนสนิทเป็นที่ปรึกษารับงานศูนย์ดิจิทัลที่ส่อทุจริต รวมถึงประเด็นการขาดจริยธรรม หรือนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง อาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการท่อส่งน้ำ EEC
ส่วนหนึ่งของความไม่ชอบมาพากลที่มาพร้อมหลักฐานที่ฝ่ายค้านรวบรวมมาได้ จะสามารถมัดตัวผู้กระทำผิดโดยเฉพาะนักการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นการทุจริตเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะประเด็นหลังการลงมติไม่ไว้วางใจที่ได้ปรากฎหลักฐานการแจกจ่ายเงินให้กับพรรคการเมือง เพื่อต่อคานอำนาจให้พล.อ.ประยุทธ์ได้อยู่ต่อ กระบวนการต่อไปนี้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่ต้องเร่งสืบหาข้อเท็จจริงให้แน่ชัดและเอาผิดโดยเร็ว
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้อยู่ต่อ เป็นไปตามที่ฝ่ายค้านคาดการณ์ไว้ว่าอาจมีเหตุการณ์ “กล้วยช่วยค้ำตู่”หรือไม่นั้น ก็เกิดขึ้นจริง ยิ่งเป็นการยืนยันว่า สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้คือ ผลไม้อาบยาพิษรัฐธรรมนูญ ปี 2560 หรือ รัฐธรรมนูญฉบับเพื่อพวกเขา ที่สร้างความอ่อนแอให้กับพรรค และทำให้การเมืองไทยตกต่ำย้อนยุคไปช่วงก่อนเกิดรัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งมีที่มาจากรัฐประหาร เป็นรัฐธรรมนูญแฝดพี่ของฉบับปี 2560 ที่ทำให้การเมืองไทย โดยเฉพาะฝ่ายนิติบัญญัติอ่อนแอ ถดถอยลง เกิดการต่อรองผลประโยชน์ซื้อขายตัวนักการเมืองไม่ต่างจากสินค้าในตลาดมืด ทำให้นักการเมืองไม่เป็นที่พึ่งที่หวังให้กับประชาชน
“หากสภา เนรมิตไร่กัญชาไร้ที่มาได้ฉันท์ใด อะไรในสภาแห่งนี้ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ เชื่อว่าจากนี้ไปความขัดแย้งทางการเมืองอาจคุกรุ่นขึ้นจากผลพวงของการหลงไหลเสพติดในอำนาจของผู้นำเผด็จการคนนี้ อนาคตทางการเมืองของพวกท่านดับวูบแล้วนับตั้งแต่ฝ่ายค้านได้อภิปรายจนจบ เลือกตั้งครั้งหน้าไม่มีที่ยืนสำหรับพวกท่านแล้ว” น.ส.ธีรรัตน์กล่าว