ความเคลื่อนไหว การแข่งขัน “อาเซียน พาราเกมส์ ครั้งที่ 11″ ที่เมืองโซโล ประเทศอินโดนีเซีย ทัพนักกีฬาพาราไทยพร้อมเต็มที่ กำหนดเดินทาง วันที่ 26 ก.ค.65 นี้ โดยประเทศไทย ส่งนักกีฬา จำนวน 310 คน ลงแข่งขันใน 14 ชนิดกีฬา ในจำนวนนี้มีนักกีฬาคลื่นลูกใหม่ เข้าร่วมการแข่งขันเกือบ 100 คน ซึ่งจะเป็นรากฐานที่ดีต่อการพัฒนาตนเองสู่การแข่งขัน รายการใหญ่ๆ อาทิ พาราลิมปิกเกมส์ ที่ประเทศฝรั่งเศส ในอีก 2 ปีข้างหน้า
นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นับตั้งแต่พาราลิมปิก ที่กรุงโตเกียว เมื่อปีที่ผ่านมา นักกีฬาพาราไทยได้มีการเก็บตัวและคัดตัวในแต่ละชนิดกีฬามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีนักกีฬาหน้าใหม่เกิดขึ้นในเกือบทุกชนิดกีฬา จะเห็นได้จากมีการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต้องขอบคุณการร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกีฬาแห่งประเทศไทย และ สมาคมกีฬาคนพิการ 5 สมาคม ที่รับผิดชอบ ช่วยกันเฟ้นหานักกีฬาคนพิการ จากอดีตที่ต้องใช้เวลาร่วม 10 ปีในการสร้างนักกีฬาคนพิการหนึ่งคน แต่จากการสนับสนุนที่คงเส้นคงวา และการวางเป้าหมายร่วมกันอย่างชัดเจน ทำให้ไทยมีนักกีฬาหน้าใหม่รอที่จะเข้ามาแทนที่รุ่นพี่มากขึ้น
“อาเซียน พาราเกมส์ เป็นรายการที่เราผลักดันและเปิดโอกาสให้นักกีฬาคลื่นลูกใหม่ได้แสดงฝีมือและสร้างประสบการณ์ นักกีฬาดาวรุ่งเหล่านี้ กำลังรอที่จะก้าวขึ้นมาสานต่อความสำเร็จจากนักกีฬารุ่นพี่ที่ทำไว้ เราเชื่อว่าการผนึกรวมใจกันของนักกีฬาหน้าคนเก่าที่เคยประสบความสำเร็จและนักกีฬาหน้าใหม่ที่จะก้าวขึ้นมาทนแทน จะสามารถสร้างผลงานและความสำเร็จให้ทัพนักกีฬาไทย รวมถึงสร้างความสุขให้แฟนกีฬาชาวไทยได้”
สำหรับการแข่งขัน อาเซี่ยน พาราเกมส์ เป็นการแข่งขันกีฬาสำหรับนักกีฬาคนพิการ ที่จัดขึ้นในทุกสองปี โดยมีนโยบายให้ประเทศที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ด้วยในคราวเดียวกัน ซึ่งครั้งล่าสุด คือครั้งที่ 9 ที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อ 17 – 23 กันยายน 2560 แต่ครั้งที่ 10 เจ้าภาพฟิลิปปินส์ ได้ยกเลิกการแข่งขัน
และในครั้งที่ 11 อินโดนีเซีย ได้เสนอตัวรับเป็นเจ้าภาพแทนเวียดนาม โดยจะจัดขึ้นที่เมืองโซโล ชิงชัยใน 14 ชนิดกีฬา ระหว่าง 30 กรกฎาคม – 6 สิงหาคม 2565 คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ได้ส่งนักกีฬาไทยเข้าร่วมเป็นจำนวน 310 คน พร้อมผู้ฝึกสอนและเจ้าหน้าที่ รวมทั้งสิ้น 487 ซึ่งทั้งหมดจะเดินทางโดยสายการบินไทย เครื่องเช่าเหมาลำ ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 แบ่งเป็น 2 ไฟล์ท เวลา 10.00 น. และ 10.30 น.