ผู้นำฝ่ายค้าน ซัด ‘บิ๊กตู่’ ไร้ความสามารถ อย่าอยู่เพื่อเป็น 608 ทำลายประเทศชาติ ขอบคุณกลุ่มราษฎรเปิดกล่องลงมติไม่ไว้วางใจคู่ขนาน ชี้เป็นมติมหาชน
เมื่อเวลา 09.25 น. วันที่ 19 ก.ค.2565 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยมีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม
เมื่อเริ่มเข้าสู่ระเบียบวาระ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงเหตุผลของญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยระบุว่า ตลอด 8 ปีที่บริหารราชการแผ่นดิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ผิดพลาดล้มเหลว ไม่สามารถแก้ป้ญหาต่างๆ ให้ประเทศได้ กลับกลายเป็นต้นตอให้ปัญหาขยายวงกว้างรุนแรงยิ่งขึ้นทุกมิติ มีการทุจริตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจรั้งท้าย มาจากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต ไร้ภูมิปัญญา ไร้องค์ความรู้ ไร้ความสามารถ ไร้จิตสำนึก ขาดภาวะความเป็นผู้นำหัวหน้ารัฐบาล มีความพิการทางความคิด ยึดติดอำนาจ
ทำให้การบริหารผิดพลาดบกพร่อง ปล่อยปละละเลยให้บุคคลแวดล้อม และพวกพ้องของตน แสวงหาผลประโยชน์บนความทุกข์ยากของประชาชน ใช้จ่ายงบประมาณโดยไม่นึกถึงวินัยการเงินการคลัง มุ่งก่อหนี้เพื่อแสวงหาความนิยมทางการเมือง จนเรียกได้ว่าเป็น ยุคแห่งการก่อหนี้มหาศาล เพื่อนำมาผลาญโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศ และประชาชน
จงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่ออำนาจและกฎหมาย ขาดจิตสำนึกในหลักการประชาธิปไตย มุ่งใช้กฎหมายเป็นครื่องมือทางการเมือง ใช้เงินต่อรองผลประโยชน์เพื่อความอยู่รอดทางการเมืองของตนเอง อันเป็นการกระทำที่เป็นการทำลายระบบรัฐสภา และหลักการของระบอบประชาธิปไตย จนทำให้ระบบรัฐสภาตกต่ำสั่นคลอน กลไกระบบรัฐสภาเสียหาย หากปล่อยให้พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีดังกล่าวบริหารประเทศต่อไป ย่อมนำมาซึ่งความเสียหายต่อประเทศ และประชาชน จนยากที่จะเยียวยาแก้ไขได้
นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า เราจะเห็นว่า 8 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ และพวกพ้อง ได้กระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้ประชาชน เพียงเพื่อพล.อ.ประยุทธ์ ต้องการอยู่ในอำนาจ ล้มล้างคู่แข่งทางการเมือง 8 ปีที่ผ่านมา ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ มีภาวะผู้นำที่แท้จริง จะออกมาประกาศยอมรับว่า ความผิดพลาดล้มเหลวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เกิดจากตัวท่านคนเดียว และท่านจะต้องประกาศให้โลกนี้รู้ว่า ท่านเองไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ แต่เสียดายที่พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ทำสิ่งนี้
ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ สำนึก รู้ดี รู้ชั่ว เห็นแก่ประเทศชาติ ออกมายอมรับตรงๆ เชื่อว่า ประเทศ และการทำหน้าที่ในสภาจะเข้าสู่ภาวะปกติ ทุกคนจะมีความหวัง แต่ 8 ปีที่ผ่านมา บ่งชี้ชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีจิตสำนึก ไม่มีความรับผิดชอบ คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่แต่ผู้เดียว อีกทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ได้กระทำการโดยให้พรรคร่วมรัฐบาลเข้ามีส่วนร่วม เป็นนั่งร้านสนับสนุนท่านให้มีอำนาจต่อไป
“นั่งร้านที่เกิดขึ้นขณะนี้เปรียบเสมือนเห็บเหาปรสิต ร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ ที่คอยสูบเลือดประเทศ และประชาชน เพื่อความอิ่มเอมของตนเอง และพวกพ้อง สิ่งเหล่านี้จะต้องถูกกำจัดออกไป ถ้านั่งร้านเหล่านี้เกิดจิตสำนึกที่ดี เห็นแก่ประเทศชาติ ช่วยกันลงมติไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ ก็จะหมดเวลาของพล.อ.ประยุทธ์ แต่ถ้าท่านไม่มีจิตสำนึกที่จะบอกกับประชาชนว่าท่านพอแล้ว และนั่งร้านไม่ลงคะแนนไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ ถึงเวลาจริงๆ ที่ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่เด็ดหัวสอยนั่งร้าน ไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ และพวกพ้อง โดยเฉพาะรัฐมนตรี 10 คน ให้บริหารราชการแผ่นดินต่อไป ทั้งหมดจะต้องไปสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อนำคนทำผิดมาลงโทษ จะต้องมีการตัดวงจรเห็บเหาปรสิตที่คอยสูบเลือดประเทศ และประชาชนออกไป”
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะขอใช้เวลาทั้งสิ้น 4 วัน 45 ชั่วโมง อย่างคุ้มค่าทุกวินาที เพื่อหยุดสิ่งเลวร้ายเหล่านี้ หยุดการทำลายชาติ เพื่อชี้ให้สภาแห่งนี้เห็นถึงภัยร้ายที่เกิดขึ้นมาตลอด 8 ปี หวังว่าสิ่งที่พวกเราได้ทุ่มเททำงานอย่างหนักหน่วงเพื่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ จะทำให้สมาชิกผู้ทรงเกียรติ โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลได้ตระหนักถึงความจริงที่ว่านั่งร้าน ที่พวกท่านพยายามค้อมหัวยอมเป็นให้กับรัฐบาลนี้ ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างใหญ่หลวง และถึงเวลาแล้ว ที่พวกเราจะร่วมมือกันยุติความเสียหายเหล่านี้ และเริ่มต้นใหม่กับรัฐบาลที่มาจากเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนขอขอบคุณกลุ่มราษฎรที่เปิดกล่องลงมติไม่ไว้วางใจเป็นมติมหาชน หากเห็นมติมหาชน จะเปลี่ยนใจมาลงมติไม่ไว้วางใจร่วมกับฝ่ายค้าน พล.อ.ประยุทธ์ และพวก มีที่มาไร้ความชอบธรรม เข้าสู่อำนาจด้วยการรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากประชาชน นั่นคือการปล้นอำนาจของประชาชนทั้งประเทศ ผลักดันตนเองเข้ามาเป็นรัฐบาลเถื่อน ฉีกรัฐธรรมนูญกฎหมายสูงสุดของประเทศ และยังรักษาอำนาจด้วย กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญที่น่าอดสูใจอย่างยิ่ง เขียนรัฐธรรมนูญเพื่อสร้างกองกำลังในสภาให้ซ้ายหันขวาหัน โหวตรักษาอำนาจให้ตนได้ตามอำเภอใจ จนรัฐบาลเถื่อนของตนนั้นอยู่รอด สร้างความล่มสลายให้ประเทศต่อเนื่องยาวนานเกือบ 8 ปี
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ยอมรับเถิดว่ารัฐธรรมนูญปี 60 ที่เกิดจากนิติบริกรที่พล.อ.ประยุทธ์ เลือกเข้ามาจัดทำรัฐธรรมนูญจนได้ดั่งใจนั้น เป็นรัฐธรรมนูญที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติ ดึงประเทศถอยหลังนับสิบๆ ปี และเป็นมะเร็งร้ายบ่อนทำลายระบอบการเมืองไทย ทำลายประเทศ และอนาคตของลูกหลานทั้งหมด เป็นเพียงเพราะความอยากอยู่ต่อในอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ อย่างไร้สำนึก ไร้ความชอบธรรม โดยไม่ใส่ใจต่อความพินาศของเศรษฐกิจสังคมเท่านั้นเองจริง เป็นผู้นำไร้ความสามารถ ผู้นำที่ขาดวิสัยทัศน์ ใช้ปากบริหารประเทศ
ชีวิตของพล.อ.ประยุทธ์อาจรู้จักแต่กองกำลังในค่ายทหาร จึงมักคัดเลือกบุคลากรที่คุ้นเคยเหล่านี้เข้ามาทำงานในด้านต่างๆแบบผิดฝาผิดตัว เป็นผู้นำที่สร้างความพินาศ ล้มเหลวให้กับประเทศ คอร์รัปชั่นจนระบบประเทศพังพินาศล้มเหลว อาทิ ภาพการพิจารณางบประมาณ ปี 2566 เห็นชัดเจนว่าช่วงใกล้เลือกตั้งจัดงบกระจุกตัว จัดให้แต่ฝ่ายตนเองและพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเห็นได้ชัด การริดลอนสิทธิเสรีภาพประชาชนที่จะต้องได้รับความยุติธรรมแต่กลับจับติดคุก ทั้งที่ยังไม่มีคำพิพากษา บังคับใช้กฎหมายล้นเกิน ดึงสถาบันมาเป็นคู่ขัดแย้ง กล่าวหาคนเห็นต่างไม่จงรักภักดี ทั้งที่จริงตัวท่านเองแอบอิงใช้ประโยชน์เพื่อต้องการอยู่ในอำนาจ
การสถาปนาสภากล้วย จงใจเป็นปฏิปักษ์ทำลายระบบรัฐสภาและระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เรื่องนี้ถึงศาลแน่นอน
อีกทั้งยังครอบงำชี้นำพรรคการเมืองที่สมยอมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก้าวก่ายแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติ สั่งการสูตรคำนวณส.ส.หาร 500 มีการต่อรองทางการเมืองมากมาย เพื่อทำงานพรรคคู่แข่งให้การยึดอำนาจมาไม่เสียของ เหมือนจับหนูตัวเดียวแต่เผาบ้านตัวเอง เราสร้างแม่มันเป็นวัว แต่มีการแอบไปผสมพันธุ์ จนลูกออกมาเป็นควาย เรื่องนี้ถึงศาลแน่
ตนยังเชื่อมั่นศาลรัฐธรรมนูญ พรรคร่วมรัฐบาล และส.ส. ท่านใช้วิธีการแบบนี้พรรคกลางและพรรคเล็กตายหมด ตนแนะนำยังมีเวลาไปใช้ศาลรัฐธรรมนูญทักท้วงว่าการแก้ไขมาตรา 23 ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ถึงศาลแน่และจะมีใครบางคนถูกสอย เสียงในสภาไม่ชนะศรัทธาประชาชนแน่นอน คนดูถูกอำนาจประชาชนจะถูกสั่งสอนในสนามเลือกตั้ง
“ผมขอร้องไปยังเพื่อนสมาชิก เรามาจากประชาชนต้องคำนึงถึงความต้องการของประชาชน เพื่อประเทศชาติ และบ้านเมือง ผมหวังว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพวกเราจะได้มาเจอกัน ณ แห่งนี้ และหวังว่าคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ควรจะไปจากสภาแห่งนี้ เพราะท่านไม่เคยให้เกียรติสภาแห่งนี้ ไปได้แล้ว ท่านอย่าอยู่เพื่อเป็น 608 ทำลายประเทศชาติ” นพ.ชลน่าน กล่าว